#beartai จะพาทุกคนย้อนกลับไปชม 20 สิ่ง สมาร์ตโฟน และแกดเจ็ตสุดเจ๋ง แปลก และแหวกแนวจากปี 2010 – 2020 หรือตลอด 10 ปีที่ผ่านมาว่ามีอะไรกันบ้าง! (เป็นอันดับของผู้เขียนเท่านั้นนะ หลายคนอาจจะรู้จักอะไรที่เจ๋ง และแปลกมากกว่านี้ก็ได้)

Sony Xperia X5 Pureness (2010)

Sony Xperia X5 Pureness อาจจะหลุดธีมไปเสียหน่อย เพราะว่าเปิดตัวในปี 2009 แต่ขายจริงน่าจะช่วงต้นปี 2010 ก็เลยหยิบมาติดอันดับด้วยเพราะเป็นหนึ่งในแก็ดเจ็คโคตรเท่ในสมัยนั้น

Xperia X5 Pureness เป็นฟีเจอร์โฟนที่ไม่ได้มีความสามารถเยอะแยะมากมาย แต่มีการแสดงผลหน้าจอที่เรียกได้ว่าล้ำจนในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทำตามออกมาอีก ด้วยหน้าจอที่โปร่งใสจนสามารถมองทะลุได้ และอาศัยการสะท้อนของกระจกในการฉายสิ่งที่แสดงผลไปกระทบกับตัวปริซึมนั่นเอง

ในปัจจุบัน Sony Xperia X5 Pureness ยังเป็นหนึ่งในแกดเจ็ตที่หาตัวกันพบไม่ได้ง่าย ๆ แถมยังมีราคาค่าขายที่แพงถึงราว ๆ 15,000 – 30,000 บาทเลยอีกด้วย แม้จะวางขายมาแล้วเป็นเวลา 10 ปี

Samsung Galaxy Beam / Beam 2 (2012)

หนึ่งในสมาร์ตโฟนสุดแปลกในดวงใจของผมเลย ถ้าหากคุณยังไม่รู้จัก Samsung Galaxy Beam หละก็ อยากจะให้ลองนึกภาพของเครื่อง Projector รวมร่างกับสมาร์ตโฟน Android มันก็จะมีหน้าตาออกมาเป็น Samsung Galaxy Beam เนี่ยแหละครับ

Samsung Galaxy Beam ใช้งานบนพื้นฐาน Android ที่ครอบทับด้วย TouchWiz UX หน้าตาดูผิวเผินเหมือนสมาร์ตโฟนทั่วไปที่มีขนาดใหญ่กว่าปกตินิดหน่อย ออกแบบมาพร้อมกับระบบ Projector ที่สามารถฉายสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนหน้าจอออกมาได้ ทำงานคล้ายกับเครื่อง Projector เครื่องหนึ่งที่มีหน้าจอแปะอยู่บนเครื่องเลยทีเดียว ก็เป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนที่เรียกได้ว่าแปลก และเจ๋งดี

ASUS Padfone (2012)

ปี 2019 – 2020 เรามีสมาร์ตโฟนที่สามารถพับได้ และกลายเป็นแท็บเล็ตจอใหญ่กันแล้วใช่ไหมครับ แต่รู้หรือไม่ว่าในปี 2012 เรามีสมาร์ตโฟนที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ด้วยการ “Dock” เข้าไปในจอ อย่างกับ Nintendo Switch อย่างไรอย่างนั้น

https://youtu.be/BU9QRjrHEds

ASUS Padfone มีหัวใจหลักเป็นสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไปที่มีหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว และสามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้วได้ด้วยการใส่ตัวเครื่องเข้าไปที่ด้านหลัง และก็ ชะวิ้ง กลายเป็นแท็บเล็ตเรียบร้อย และที่สำคัญ ยังรองรับการใช้งานร่วมกับเคสคีย์บอร์ด และ Touchpad อีกด้วย! ซึ่งในสมัยนั้นเป็นอะไรที่โครตจะคูลเลยทีเดียว

Samsung Galaxy Gear (2013)

Samsung Galaxy Gear เป็นหนึ่งในสมาร์ตวอชต์ตัวแรก ๆ ที่มีฟังก์ชันครบครัน และรันบนระบบปฏิบัติการ Android (ภายหลังเปลี่ยนมาใช้ Tizen OS) ที่สามารถทำหน้าที่แทนสมาร์ตโฟนได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่โทรศัพท์ (มีไมค์ สนทนา และลำโพง), ถ่ายรูป แม้กระทั่งนำไฟล์ APK ไปติดตั้งเพื่อใช้แอปเพิ่มเติมก็ยังได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแกดเจ็ตที่โครตเจ๋งที่ออกมาวางจำหน่ายคู่กับ Samsung Galaxy Note 3 ที่ใครได้จับจองเป๋็นเจ้าของในสมัยนั้นก็คือเท่สุด ๆ ไปเลย

Google Glass (2013)

หนึ่งในแกดเจ็ตที่หลายคนที่เป็นแฟนบอย Google จะต้องร้อง อ๋อ กันอย่างแน่นอน กับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะในรูปแบบแว่นตาที่รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android สั่งการได้ด้วยเสียง “Ok Glass” และระบบสัมผัส แสดงผลด้วยแท่งปริซึมใสที่ติดตั้ง projector เอาไว้ แถมยังมีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 5MP ที่สามารถนำไปใช้แปลภาษาแบบแสดงผลผ่านโลกความเป็นจริงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าสนใจมาก ๆ แต่ตอนนี้โครงการ Google Glass ก็ยุติการพัฒนาไปแล้ว เพราะทำยังไงก็ไม่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันสักที

LG G Flex / G Flex 2 (2013)

LG G Flex น่าจะเป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนที่หลายคนรู้จักกัน เพราะมีการหยิบมาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย โดยจริง ๆ แล้ว G Flex ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปในยุคนั้นหรอก เพียงแต่มัน “โค้ง” และไม่ใช่การโค้งธรรดาของหน้าจอนะ แต่มันโค้งทั้งเครื่องแบบนี้!

ตัวเครื่องมีความโค้งคล้ายกับโดนบีบให้งออย่างไรอย่างงั้น ซึ่งนอกเหนือจากนั้น LG G Flex ก็เป็นเรือธงทั่วไป ที่เน้นฟังก์ชันแปลกใหม่ที่สมาร์ตโฟนในสมัยนั้นยังไม่มีกัน เช่นพวก Knock On หรือ Multi Windows (ในสมัยที่สมาร์ตโฟนแรมยังน้อย อะไรพวกนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่โครตเจ๋งเลยนะ)

DualShock 4 – PS4 (2013)

DualShock 4 คืออุปกรณ์ควบคุมสำหรับเครื่องเล่นเกม PlayStation 4 หรือคอนโทรลเลอร์ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่าอุปกรณ์ DS4 ตัวนี้เปิดตัวออกมาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว!

DS4 ณ ตอนเผยโฉมออกมาครั้งแรกเป็นอะไรที่ล้ำมาก ๆ ทั้งระบบสัมผัส ทั้งการควบคุมด้วย Motion ที่ละเอียดมาก ๆ และพัฒนาไปไปอย่างมากจาก DS3 เรียกได้ว่าล้ำยุคจนในปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยม และไม่ได้ถูกมองว่าเป็นของเก่าเลย

Google Project Ara (2013)

หากคุณเบื่อกับการที่ต้องมานั่งเปลี่ยนมือถือทุก ๆ ไตรมาสแล้วหละก็ Project Ara (อาจจะ) เป็นทางออกสำหรับคุณ แต่น่าเสียดายที่มันไม่เคยได้ออกมาจนถึงมือของผู้คนทั่วไป นอกจากอยู่ในแล็บของ Google

Project Ara เป็นโปรเจกต์การพัฒนาสมาร์ตโฟนในรูปแบบที่เราสามารถเลือกประกอบได้คล้ายกับคอมพิวเตอร์แบบประกอบเอง ที่เราสามารถเลือกได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ชิปประมวลผล กล้อง ลำโพง หน้าจอ ว่าเราจะใช้ของค่ายไหน รุ่นระดับไหน ตามความต้องการของเรา

ซึ่ง Google มีแพลนที่จะเปิดเป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดกว้างให้ใครเข้ามาทำโมดูลประกอบเพื่อนำมาใช้กับเครื่อง Ara ก็ได้ แต่ก็น่าเสียดายที่โพรเจกต์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง และถูกประกาศว่ายกเลิกการพัฒนาไปในช่วงปลายปี 2016

Samsung Galaxy Note Edge (2014)

ปี 2014 เรามีสมาร์ตโฟนชั้นเยี่ยมหลายรุ่น แต่เชื่อว่าหนึ่งในสมาร์ตโฟนอันน่าจดจำที่หลายคนต้องรู้จักแน่นอนนั่นก็คือ “Samsung Galaxy Note Edge

Note Edge เปิดตัวพร้อมกับ Samsung Galaxy Note 4 เรือธงสุดเทพในปีนั้น ซึ่ง Note Edge นั้นมีลักษณะคล้ายกับ Note 4 หลายประการ แต่ที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัดคือหน้าจอแสดงผลแบบโค้ง ด้านข้างสามารถใช้แสดงผล และเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ไปจนกระทั่งสามารถเล่นเกมได้…

Note Edge ยังเป็นต้นแบบให้สมาร์ตโฟน Android ของ Samsung อีกหลายรุ่น เช่น Samsung Galaxy S6 Edge, Galaxy S7 Edge จนถึง Galaxy S10 พวกรุ่นหลัง ๆ ที่ใช้จอแบบ Curved Edge

ถึงแม้ต่อมาจะไม่ใช่หน้าจอโค้งแบบ Note Edge ที่สามารถนำพื้นที่หน้าจอส่วนนั้นไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ดูล้ำมากในยุคนั้น และเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนอันน่าจดใจจริง ๆ

Microsoft Hololens (2016)

หนึ่งในสุดยอดอุปกรณ์จาก Microsoft ที่ใครเห็นก็เป็นต้องว้าว ลองนึกภาพว่าคุณสามารถใช้ระบบ Windows 10 ที่ไหนก็ได้ด้วยการแปะจอลงไปบนผนัง หรือพื้นที่ว่าง จะใหญ่ขนาดไหนก็ได้ หรือแม้แต่ทำให้สภาเจไดนั้นเกิดขึ้นจริงบนโลกนี้ ใช่แล้วครับ ที่ว่ามานี้เกิดขึ้นจริงแล้วด้วยการใช้อุปกรณ์ที่ชื่อว่า Hololens

คลิปวิดีโอการทดสอบเทคโนโลยี Teleportation คล้ายกับการประชุมสภาเจไดในภาพยนต์ Star Wars

Hololens เป็นอุปกรณ์ที่ผสมกันระหว่าง Virtual Reality และ Augmented Reality หรือเรียกว่า Mixed Reality นั่นแหละ เป็นการทับซ้อนของภาพที่เรนเดอร์ขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ลงไปบนภาพของโลกความเป็นจริง ทำให้เราเห็นโลกทั้งสองนั้นทับซ้อนกันจนกลายเป็นโลกเดียวกัน ปัจจุบัน Microsoft พัฒนาออกมาแล้วถึง 2 รุ่น และมีราคาที่แพงหูฉี่

มีต่อหน้า 2 >

Sony Xperia Touch (2017)

หลายคนอาจจะไม่รู้จักกับเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ ให้ลองนึกถึงเครื่อง Projector ที่จะฉายแสงลงไปบนพื้นผิวใด ๆ ก็ได้ และเปลี่ยนให้พื้นผิวเหล่านั้นกลายเป็นแท็บเล็ต Android ที่เราสามารถสั่งการด้วยการสัมผัสลงไปตรง ๆ ได้เลย!

ฟังแล้วอาจจะดูคล้ายกับ Samsung Galaxy Beam เพียงแต่ว่าเจ้า Xperia Touch เนี่ยไม่ใช่สมาร์ตโฟน แต่เป็นเครื่องฉาย Projector ขนาดพกพา และยังสามารถสัมผัสลงไปยังแสงที่ฉายได้โดยตรงเพื่อควบคุม โดยอาศัยเซนเซอร์จับท่าทางว่าเราแตะต้องลงไปตรงไหนบ้าง

Sony Xperia Touch นั้นเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ในงาน MWC 2016 ในชื่อ Sony Xperia Projector และหลังจากพัฒนาจนเสร็จสิ้นก็ถูกหยิบมาวางจำหน่ายในปี 2017 ด้วยราคาเปิดตัวที่แพงถึง 59,990 บาท! และวางจำหน่ายในไทยด้วย

Nintendo Switch (2017)

เครื่องเล่นเกมที่มีกิมมิกสุดเจ๋ง เป็นได้ทั้งเครื่องเล่นเกมแบบ Handheld และแบบ Console เต็มตัว และด้วยการตั้งชื่อว่า “Switch” ที่แปลว่า “เปลี่ยน” เหมือนกับเป็นการบ่งบอกว่าตัวเครื่องสามารถเปลี่ยนไปเล่นเกมแบบ Handheld หรือจะเปลี่ยนไปเล่นแบบต่อทีวีก็ได้ภายในทันที

https://youtu.be/f5uik5fgIaI

Nintendo Switch เป็นเครื่องเล่นเกมที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่สู้คนอื่นได้เลย หรือแม้แต่ประสิทธิภาพของชิป Tegra X1 ก็ยังสู้ PS4 หรือ Xbox One ไม่ได้ แม้สองเครื่องนั้นจะออกมาก่อนแล้วหลายปี แต่เครื่อง Nintendo Switch ก็กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ด้วยการสร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเครื่องเล่นเกม ที่ไม่มีใครเหมือนได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแกดเจ็ตที่น่าจดจำในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเลย

Valve Index (2019)

Valve Index น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เกมเมอร์หลายคนรู้จักกันดีเพราะจุดประสงค์ของมันหลัก ๆ คือการหยิบมาเล่นเกมแบบ VR นั่นเอง แต่ที่ Valve Index นั้นจะดูเจ๋งกว่า VR Headtset ค่ายอื่นหน่อย ๆ ก็คือตัวคอนโทรลเลอร์ของมันนี่แหละ ที่มันสามารถ Tracking นิ้วของเราได้ด้วย!

Vavle Index นั้นพัฒนาโดย Valve หรือเจ้าของผู้พัฒนาแฟรนไชส์อันโด่งดัง และหน้าร้านค้าเกมดิจิทัลอย่าง Steam ที่เราเสียเงินให้กันไปเป็นหมื่นเป็นแสนเนี่ยแหละ ด้วยความพิเศษของ Valve Index ก็ทำให้มันมีราคาที่สูงมาก และน่าจะเป็น VR Headset ที่เจ๋งที่สุดในตลาดตอนนี้

Samsung Galaxy Fold (2019)

Galaxy Fold คือหนึ่งในสมาร์ตโฟนจอพับได้ที่ถูกหยิบมาวางจำน่ายทั่วโลกเป็นเครื่องแรกของโลก และมีการวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย (ราคา 69,990 บาท!) เปิดตัวในปี 2019 พร้อม ๆ กับ Galaxy S10

สาเหตุว่าทำไม Galaxy Fold นั้นติดอันดับทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มี Huawei Mate X ที่เปิดตัวออกมาก่อน ก็เป็นเพราะว่าความแปลกจริง ๆ ของ Galaxy Fold เนี่ยแหละ (อัตราส่วนจอนอกที่แปลก และการออกแบบที่ดูไม่ค่อยจะลงตัว…) จอด้านนอกมีขนาด 4.6 นิ้วที่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ และเมื่อกางออกมาจะเป็นแท็บเล็ตขนาด 7.3 นิ้ว ที่มีติ่งจอสุดหนาด้านใน

และ Galaxy Fold ก็ถูกหยิบมาพูดจนเป็น Talk of The Town ณ ตอนนั้นเลยถึงความแปลกใหม่ในเทคโนโลยีอย่างการพับได้ของหน้าจอสัมผัสที่ไม่เคยออกมาสู่มือผู้ใช้งานทั่วไปจนปี 2019 (#beartai มีรีวิวด้วยนะ )

Motorola Razr (2019)

อันนี้อดใจจะไม่หยิบมาติดอันดับไม่ได้จริง ๆ สำหรับ Motorola Razr อีกหนึ่งสมาร์ตโฟนจอพับได้ดีไซน์สุดเท่ ที่ออกแบบตามมือถือฝาพับในตำนานในชื่อเดียวกัน ที่หากคุณได้มาถือในปี 2020 แล้ว ไม่รู้ว่าจะบรรยายความเท่ของมันออกมาอย่างไรดี

https://youtu.be/IxSTFbL9ziw

Motorola Razr นั้นออกแบบตามรุ่นดั้งเดิมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลด้านนอกขนาด 2.7 นิ้ว สำหรับแจ้งเตือน รวมทั้งขอบ และดีไซน์ต่าง ๆ ออกแบบตามอันเดิมหมดเลย เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เจ๋งสุด ๆ ไปเลย

Microsoft Surface Duo / Neo (2019)

สองคู่หู Surface จาก Microsoft ที่มีเอกลักษณ์สุดแปลก ที่เป็นอุปกรณ์สองสิ่งในตัวเดียวกัน ด้วยการใช้ประโยชน์จากหน้าจอสองหน้าที่ที่ติดกันเป็นบานพับ

Surface Duo นั้นเป็นสมาร์ตโฟนที่สามารถกลายร่างเป็นแท็บแล็ตได้เมื่อกางออก ส่วน Surface Neo นั้นเป็นแท็บแล็ต และสามารถกลายร่างเป็นโน้ตบุ๊กได้เมื่อกางออก เป็นส่วนผสมของเทคโนโลยีที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ดีไซน์เรียบ ๆ ดูสะอาดตาตามภาษา Microsoft

Surface Duo กำลังจะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ (10 กันยายนนี้) ด้วยราคาเริ่มต้น 43,500 บาท มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 855 และหน้าจอขนาด 5.6 นิ้วทั้งหมดสองจอ ที่มีบานพับที่พับได้ครบองศา

Xiaomi Mi Mix Alpha (2019)

Xiaomi Mi Mix เป็นอีกหนึ่งไลน์อัปที่มีเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ มาโดยตลอดจนกระทั่ง Xiaomi Mi Mix Alpha แม้จะเป็นสมาร์ตโฟนที่ไม่เคยได้ออกมาจนถึงมือผู้ใช้งานทั่วไปแบบเรา ๆ แต่ก็ต้องขอหยิบเข้ามาในลิสต์เพราะมันเจ๋งจริง ๆ

Mi Mix Alpha นั้นมาพร้อมกับอัตราแสดงผลหน้าจอต่อตัวเครื่องด้านหน้าถึง 180%! เรียกได้ว่าหากดูเผิน ๆ แล้วมันมีหน้าจอทั่วเครื่องเลยทีเดียว นอกจากนั้นตัวเครื่องยังมีลำโพงแบบคลื่น Ultra Sonic ที่ดังมาก ๆ แม้จะฝังไว้ใต้หน้าจอ และยังเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 108MP!

Samsung Odyssey G9 (2020)

อันนี้อาจจะหลุดธีมออกมาจากลิสต์บน ๆ ไปเสียนิด เพราะมันคือหน้าจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกม หรือเกมมิงมอนิเตอร์ ที่มาพร้อมกับรีเฟรชเรตสูงถึง 240Hz และเป็นจอมอนิเตอร์เครื่องแรกของโลกที่มีระดับความโค้งถึง 1000R!

Samsung Odyssey G9 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหน้าจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมที่เทพที่สุดในตอนนี้แล้ว ด้วยดีไซน์สุดล้ำอนาคต พร้อมเอาใจเหล่าเกมเมอร์ด้วยไฟ RGB ด้านหลัง และความโค้งถึง 1000R ที่ทำให้มันดูแปลกตาสุด ๆ ไปเลย

Magic Keyboard for iPad Pro 2020 (2020)

เดี๋ยวจะหาว่าเราชอบแซะแต่ Apple จริง ๆ แล้วเราเป็นแฟนบอย Apple กันนะ ทีมนักเขียนนี้ก็ใช้อุปกรณ์ของ Apple กันทุกคน และแน่นอนว่าผมก็ไม่พลาดที่จะหยิบอุปกรณ์สุดแปลก และเจ๋งอันนี้มาติดอันดับ

ผมกำลังพูดถึง “Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro 2020” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยความแปลกที่มันสามารถทำให้ iPad Pro นั้น “ลอยได้” ใช่ครับ ฟังไม่ผิดหรอก มันลอยเหนือพื้นจริง ๆ ด้วยบานพับเล็ก ๆ นั่นแหละ ความบางของตัวเคสนี้มีวงจรไฟฟ้าที่ซับซ้อนมาก และด้วยความที่เป็น Magic Keyboard จึงทำให้สัมผัสการพิมพ์บนตัวมันนั้นฟินสุด ๆ และแม่เหล็กที่ใช้ยึดตัวเครื่องก็มีความแข็งแรงแบบที่เขย่ายเท่าไหร่มันก็ไม่หลุด (ถึงหลุด แล้วร่วง Apple ก็คงไม่จ่าย) เป็นเหตุผลที่ทำให้มันราคาที่แพงแสนแพงถึง 10,000 บาท…

Xiaomi Mi TV LUX Transparent Edition (2020)

ปิดอันดับสุดท้ายกันด้วยทีวีสุดแปลกที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ กับทีวีที่มีจอโปร่งแสงจนสามารถมองทะลุได้ พร้อมเทคโนโลยีสุดอัดแน่นอย่าง Xiaomi Mi TV LUX Transparent Edition!

เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เปิดตัวเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของบริษัท Xiaomi ด้วยทีวีสุดอลังการ ที่มีหน้าจอขนาด 55 นิ้วโปร่งแสงจนมองทะลุได้ มีรีเฟรชเรตหน้าจอสูงถึง 120Hz ตัวจอเป็น OLED Panel กลายเป็นสมาร์ตทีวีจอโปร่งแสงที่วางจำหน่ายเป็นตัวแรกของโลก ด้วยราคาถึง 2 แสนกว่าบาท!

ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับ 20 อุปกรณ์เจ๋ง ๆ หรือแปลก ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ระหว่างเขียนก็ทำให้ระลึกได้ว่าในแต่ละปีที่ผ่านมามันมีเทคโนโลยีที่ใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อย และพัฒนาไปได้อย่างไม่หยุดยั้งจริง ๆ จนทำให้อยากมีชีวิตอยู่ไปนานอีกนาน เพื่อดูการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปกว่านี้

ส่วนใครที่ชอบอะไรเจ๋ง ๆ แปลก ๆ แบบนี้ ที่เว็บของเรา beartai.com มีให้อ่านกันได้ทุกวันเพราะเราอัปเดตข่าวสารเทคโนโลยีกันทุกวัน กันแบบแบบชั่วโมงต่อชั่วโมงอย่างขยันขันแข็งเลยหละครับ

ขอบคุณครับ!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส