ปี 2019 โลกได้รู้จักปรากฏการณ์ Tiktok ที่ทำให้วิดีโอคลิปสั้น ๆ 60 วินาทีของคุณสั่นสะเทือนไปทั้งโลกได้ พอย่างเข้าปี 2020 โลกยังอยู่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด ผู้คนหันมาเชื่อมต่อผ่านโลกออนไลน์กันมากกว่าเดิม จึงเป็นแรงส่งให้เกิดผู้ท้าชิงในสังเวียนโซเชียลเน็ตเวิร์กออกมามากมาย แล้วหนึ่งในนั้นที่มาแรงมาก ๆ คือแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Clubhouse ที่พึ่งคลอดออกมาใหม่ เพียงแค่ 6 เดือน แต่สามารถสร้างยอดผู้ใช้พุ่งไปแตะหลัก 1 ล้านคนได้ และยังได้เงินทุนในรอบ Series B ไปถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยทั้งบริษัทมีพนักงานเพียง 9 คนถ้วนเท่านั้นเอง!! 

ทำความรู้จัก Clubhouse

Clubhouse คือแพลตฟอร์ม Social Network รูปแบบใหม่ที่ไม่ใช้การโพสต์คลิปวิดีโอ รูปภาพ​ หรือตัวอักษร แต่ใช้ “เสียง” แทน โดยผู้ใช้จะอัดเสียงพูด แล้ว “คุย” โต้ตอบกันไปมา ซึ่งเหล่าบรรดาผู้ที่ได้ทดลองใช้ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า Clubhouse ให้ความรู้สึกเป็นธรรรมชาติมาก ๆ เพราะการใช้เสียงตอบโต้กันนั้นทำให้เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของการพูดคุยได้ดีกว่า โดยไม่ต้องเดาอารมณ์เหมือนกับพิมพ์แชต หรือการใช้วิดีโอคลิปที่ดูจะเป็นการสื่อสารอยู่ฝ่ายเดียว เรียกง่ายๆ ว่าอารมณ์เหมือนใช้ twitter แต่เม้าท์กันด้วยเสียงมันเลยมันส์กว่านั่นเอง

แล้วมันเล่นยังไง

เราสามารถเริ่มตั้งวงคุย ซึ่งในคลับเฮาส์จะเรียกว่า “Room” โดยสามารถตั้งหัวข้อสนทนาเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หนัง ละคร Netflix กีฬา เรื่องงาน เรื่องอะไรก็ได้ทั่วไป ซึ่งเราเป็นเจ้าของห้องจะเรียกถูกเรียกเป็น “Moderator” โดยคนที่มาอยู่ในห้องเราจะเรียกว่าเป็น “Speaker” และ “Listener”

โดยหลัก ๆ Moderator จะมีหน้าที่คอยดูแลและควบคุมบทสนทนาภายในห้อง พูดคุยตอบโต้ ให้คำแนะนำกับคนที่อยู่ในห้องก็คือคอยคุมห้องนั่นแหละ ส่วน Speaker จะใช้เรียกคนที่เริ่มต้นบทสนทนา ซึ่งก็อาจจะมีหลาย ๆ Speaker ในห้องเดียวก็ได้ ส่วน Listener ใช้เรียกสำหรับคนที่เข้ามาเพื่อจะฟังเพียงอย่างเดียว สามารถเข้าออก Room ต่าง ๆ เพื่อเพลิดเพลินกับการฟัง สามารถ Follow หัวข้อ คน หรือ Room ที่น่าสนใจได้ ไว้ติดตามว่าเค้าคุยอะไรกัน หรือถ้าเจอเรื่องที่อยากคุยก็สามารถเปลี่ยนเป็น Speaker ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ที่เด็ดก็คือ เราสามารถเข้าไปฟังเหล่าเซเลบ หรือดาราดัง ๆ ว่าเค้าคุยอะไรกัน และสามารถเข้าร่วมวงสนทนาได้เลยทันที ซึ่งตอนนี้ก็มี ทั้งเซเลบ ดารา ศิลปิน influencer หรือ เหล่านักลุงทุน (VC) ชื่อดังต่าง ๆ เข้าไปเล่นกันมากพอดู ไม่ว่าจะเป็น Oprah Winfrey, Jared Leto, Ashton Kutcher, Chris Rock ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่ว่าใคร ๆ จะสมัครเข้าร่วมได้นะ เพราะตอนนี้ยังเป็นเพียง Private Beta บน iOS เท่านั้น (ยังไม่มีบน Android จ้า) และต้องให้ผู้ที่เป็นสมาชิกส่ง “คำเชิญ” (Invite) ให้เท่านั้น (จำกัดให้แจกเพียงผู้ใช้ละ 1 Invite ด้วยนะ) และที่ทำให้แอปพลิเคชันโด่งดัง เพราะมีคนไปถามหา Invite กันใน Twitter นี่แหละ จน #Clubhouse ติดเป็น Twitter trend กันเลยทีเดียว (มีคนเอามาขายแล้วด้วยอีกต่างหาก)

มาแรงเบอร์นี้ก็ทำให้รุ่นพี่อย่าง Twitter ที่มีลักษณะเป็น microblogging เหมือนกันอยู่เฉยไม่ได้ ออกมาสกัดดาวรุ่งโดยปล่อยฟีเจอร์ใหม่ “Voice Tweets” มาให้ทดลองใช้กันเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ยังจำกัดให้ใช้เฉพาะบน iOS (ชาวแอนดรอยด์ และ Web-based ยังใช้ไม่ได้อาจจะต้องรอดูภายในต้นปี 2021) เรียกได้ว่าออกมาโต้ตอบอย่างทันควันเลยทีเดียว

แม้ใครหลายคนจะปรามาสว่า Clubhouse มาได้ไกลขนาดนี้เพราะกลุ่มผู้ที่กลัวตัวเองจะตกกระแส (Fear Of Missing Out) และยังต้องผ่านบทพิสูจน์การ “รับน้อง” จาก Social Network รุ่นพี่ที่รออยู่อีกมากมาย แต่จะรอด​ หรือจะร่วง เราก็เอาใจช่วยให้มาฮิตในไทยก่อนแล้วกันนะ​ เพราะเราอยากใช้แล้ว

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส