ผมหายหน้าหายตาจากการเขียนคอลัมน์ให้ท่านอ่านมาเดือนกว่าๆ เป็นนิสัยที่ใช้ไม่ได้ของคนที่จะยึดอาชีพนี้ครับ
ในห้วงช่วงเวลาที่ห่างหายไปนั้นผมเดินทางไปหลายที่ไล่ตั้งแต่ กระบี่ สิงคโปร์ เชียงใหม่ ฮ่องกง เสิ่นเจิ้น วัตถุดิบในการเขียนมากมาย สุดท้ายเรื่องราวที่จะนำมาเล่ากลับไม่พ้นเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ
ผู้อ่านท่านครับหากยังพอจำได้ว่าผมเคยประสบพบพานทำงานมีความชำนาญอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมการบินมีประสบการณ์ยาวนานเกือบ ๒๕ ปี ผ่านมาหมดทั้งบทบาทของผู้ให้บริการ ทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมทั้งในระดับรมต. ปลัดกระทรวง เคยอยู่ในคณะกรรมการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของไทย หลังเหตุการณ์ทางการเมือง เคยร่วมกับพี่น้องสายการบินปฏิบัติการนำอากาศยานและผู้โดยสารที่ตกค้างออกจากประเทศไทยหลังจากสนาบินทั้งสองแห่งของกรุงเทพฯ ถูกปิด
ข้อเขียนของผมจึงกลั่นออกมาจากประสบการณ์ตรง ไม่ใช่เป็นมุมมองของผู้ที่สนใจใคร่รู้แต่เพียงอย่างเดียว ท่านสามารถติดตามความคิดเห็นรายวันของผมได้ผ่านทาง Twitter @Khongsak
ท่านครับสนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้มาจนทุกวันนี้ย่างเข้าสู่ปีที่ ๑๐ ผ่านการดูแลของ รมว.กระทรวงคมนาคม และ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รวมไปถึง กระบี่มือหนึ่ง อย่างผู้อำนวยการท่าฯ หลายท่านครับ
ปัญหาของสุวรรณภูมิที่เราได้ยินมีจากความแออัดในช่วงพีคที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
ปัญหาความไม่เพียงพอของห้องน้ำ
ปัญหาความวุ่นวายขายปลาช่อนของ คิวแท็กซี่ ซึ่งนานาอารยะประเทศเขาไม่มี
รวมไปถึงปัญหาที่ไม่ออกมาสู่สาธารณะชนอย่างเรื่องการเสื่อมสภาพของ ทางขับ ทางวิ่ง Taxi way , Run way
ยังไม่นับรวมถึงปัญหาสำคัญคือเรื่อง ความปลอดภัย ที่โดนองค์กรการบินระหว่างประเทศ หรือ ICAO ในสังกัดของ สหประชาชาติ ออกมาประกาศป่าวร้องและปักลงธงแดงและเป็นการปักลงธงแดงที่ รมว.กระทรวงคมนาคม ของเราหลุดปากบอกนักข่าวไปว่า “ยังงงๆอยู่”
ถ้าเราจำความได้พื้นที่บริเวณที่เรียกว่า สนามบินสุวรรณภูมิ นี้แต่ก่อนแต่ไรถูกเรียกติดปากว่า หนองงูเห่า
ผู้อ่านท่านครับขึ้นชื่อว่า หนอง ย่อมต้องมี น้ำ
พื้นที่ตรงนี้ไม่สมควรแตะต้องเพราะเป็น แก้มลิง ที่ใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำหลาก
เอาล่ะในเมื่อ ฝ่ายการเมือง ท่านตัดสินใจว่าจะต้องเป็นสนามบินแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ดินทรายจำนวนมหาศาลถูกนำมาถมเพื่อให้หนองกลายเป็นพื้นดิน
เวลาผันผ่านการก่อสร้างสำเร็จเสร็จสิ้นเมื่อเปิดให้ใช้ปัญหาจากการก่อสร้างเริ่มปรากฎ ซึ่งก็เหมือนกับท่านซื้อบ้านใหม่ต้องเข้าไปอยู่อาศัยเท่านั้นจึงจะพบความผิดพลาด มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ฝีมือของผู้รับเหมา
ในกรณีของ สุวรรณภูมิ นี้ก็เช่นกันครับเป็นสิ่งก่อสร้างต้องเข้าไปอาศัยใช้งานเท่านั้นถึงจะทราบข้อบกพร่อง
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นผมขออนุญาตแบ่งเป็นสองหัวข้อใหญ่ๆ
- ปัญหาทางกายภาพ เช่น สำนักงานของสายการบินไม่เพียงพอที่อาคารผู้โดยสาร , ห้องน้ำไม่พอต่อความต้องการ , การทรุดตัวของพื้นผิวต่างๆ ฯลฯ
- ปัญหาทางด้านการบริหารจัดการและงบประมาณ เช่น คิวรอตรวจคนเข้าออกเมืองในช่วงพีคทั้งๆ ที่มีจำนวนเคาท์เตอร์ให้บริการเต็มพื้นที่แต่จำนวนจนท.นั่งกันไม่ครบ หรือ ปัญหาแท็กซี่คิวมักไม่ยอมเปิดมิเตอร์
ในส่วนของกายภาพคงต้องยอมรับกับการทำไปแก้ไปเหมือนเราอยู่บ้านใหม่ก็คงต้อง รับสภาพ กับการอยู่ไปซ่อมไปจนกว่าทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะเรียบร้อยหรือใกล้เคียงสภาวะปรกติที่สุด การอยู่อาศัยไม่กระทบ
ปัญหาด้านการบริหารจัดการและงบประมาณก็อยู่ที่การให้นโยบายและการกำกับดูแลให้นโยบายนั้นเป็นจริงขึ้นมา ในส่วนของงบประมาณก็ต้องดูให้มั่นใจว่าถูกจัดสรรอย่างเหมาะสมแก่การปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาต่างๆ สมควรมีกรอบเวลาของการแก้ไขและมีตัววัดผลที่ชัดเจนและจับต้องได้
ปัญหาบางปัญหาอาจจะต้องใช้เวลานาน เช่น ปัญหาคิวแท็กซี่ซึ่งเกี่ยวพันกับผู้คนจำนวนมากมีความละเอียดอ่อน
ปัญหาบางปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยก็ต้องหา เทคโนโลยี ที่เหมาะสมมาปรับใช้ เช่น ปัญหาการทรุดตัวของพื้นผิว ทางขับ Taxi Lane ( Way ) การหลุดกระเทาะของพื้นผิว ทางวิ่ง Runway ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการคิดหาหนทางแก้ปัญหาทั้งการเปลี่ยนสูตรผสมของ แอสฟัลท์ ที่ใช้ผสมทำพื้นผิวทางขับแต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในระยาวได้
การปิดซ่อมจึงทำอยู่ตลอดเวลาและท้าทายมาตรฐานความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง
ผมไม่อยากขายขี้เท่อเพราะตัวเองไม่ได้เป็นวิศวกรแต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันทุกวันนี้มันต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนผู้ที่เกี่ยวดองหนองยุ่งเป็นคนในอุตสาหกรรมการบินทั้งไทยและเทศส่ายหน้าเป็นพัดลมกันแบบนี้
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงถ้าผมจะบอกกับท่านว่าสนามบินอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง HK International Airport หรือ สนามบินนานาชาติฮ่องกง เขาใช้วิธีถมทะเลแล้วสร้างซึ่งมันน่าจะยากกว่าการถมหนองแล้วสร้างอย่างของเรา แต่พวกเขากลับมีปัญหาน้อยกว่า เขาหาเทคโนโลยีที่ถูกต้องมาปรับใช้
ของเรากลับวนเวียนเขียนก.ไก่ไปไม่ถึงไหน
ทุกองค์ประกอบของความผิดพลาดมาครบครับรอแค่วันที่อากาศยานจะประสบพบอุบัติเหตุจากความบกพร่องของทางขับทางวิ่งเหล่านี้
เรามีการเดินทางไปดูงานและเชื่อมความสัมพันธ์กับสนามบินในประเทศต่างๆ ทั้งที่มีอันดับโลกเหนือและต่ำกว่าเรา สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนก็คือการแบ่งปันสิ่งที่ดีที่สุดแก่กันและกันครับ สนามบินใดมี Best Practice ในหัวข้อไหนขอแบ่งปันได้ก็สมควรทำเพราะเรื่องบางเรื่องมันเป็นแค่เส้นผมบังภูเขา แม้แต่ในชีวิตเราๆท่านๆก็เคยเกิดขึ้น
ผมยืนยันว่า สุวรรณภูมิ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสนามบินต่างๆในภูมิภาคและนอกภูมิภาคครับ ผมอยู่ในเหตุการณ์การลงนามความเป็น พี่น้อง ของ สนามบินนาริตะ กับ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ ๕ปี ที่แล้ว พิธียิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี
ผมได้รับทราบถึงการลงนามทำนองเดียวกันกับ สนามบินมิวนิค
เป็นหมากการเดินที่สุดยอดของผู้บริหาร ทอท.ในขณะนั้นครับเพราะทั้งสองสนามบินผ่านร้อนหนาวและเป็นเจ้าแห่งการลงมือทั้งคู่เราทุกคนย่อมทราบดีถึงความสุดยอดของคำว่า Made in Japan & Made in Germany เป็นอย่างดี
ทั้งสองสนามบินสามารถแบ่งปัน Best Practice ให้กับเราได้อย่างมากมายครับ
อย่างปัญหาทางวิ่งทางขับอย่างที่ผมเรียนว่าที่ไหนๆเขาก็มีปัญหาทั้งนั้นเพราะการก่อสร้างต่อให้คิดคำนวนอย่างรอบคอบแค่ไหนมันก็มีปัจจัยนอกเหนือการควบคุมสร้างปัญหาให้ต้องแก้ไข
อยู่ที่เราจะแก้ไขแบบมีสติหรือไร้สติครับ
ถ้าสูตรผสม แอสฟัลท์ ที่ใช้ทำพื้นผิวมันเสื่อมสภาพเร็วจะเป็นด้วยการบดทับของล้อเครื่องบินหรือจะเป็นเพราะน้ำใต้ดินเอ่อล้นทำให้พื้นผิวที่บดอัดใต้ดินยุบตัว
ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องจัดการแก้ไขเปลี่ยนสูตร ถ้าบริษัทผู้รับเหมานี้ทำไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนเจ้าใหม่เข้ามาครับ
การใช้ทางขับทางวิ่งเท่าที่ผมทราบข้อมูลทางด้านวิศวกรรมนะครับ สมมติเขาบอกว่ารับประกันพื้นผิวนี้ ๑๐ปี มันยังต้องมีรายละเอียดเจาะลึกลงไปถึงจำนวนการใช้งานในแต่ละวัน เครื่องบินแบบไหนวิ่งผ่านได้กี่ครั้ง
ข้อมูลตรงนี้ฝ่ายวิศกรรมและโยธาท่านอาจจะทราบดีแต่ท่านได้แบ่งปันข้อมูลสำคัญนี้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีหน้าที่โดยตรงที่บริหารจัดการเครื่องบินเข้าออกในแต่ละวันหรือไม่
เพราะจากการประชุมล่าสุดเมื่อมีผู้ยิงคำถามนี้ไปดูเหมือนการนิ่งของท่านคือคำตอบ
ผู้อ่านท่านครับปัญหาการทรุดตัวของทางวิ่งทางขับนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยการหลุดกระเทาะของพื้นผิวหากไม่ได้รับการสำรวจตรวจดูแลอย่างมีวินัย หินก้อนเท่ากำปั้น อาจจะทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงเช่นกรณีเครื่องคองคอร์ดของสายการบินแอร์ฟรานซ์ได้
ตอนนี้องค์ประกอบความผิดพลาดเรามีครบครับ เรามีสิ่งแปลกปลอมบนลานจอด เช่น เศษพลาสติกชิ้นใหญ่ หนังสือพิมพ์ ขวดน้ำพลาสติก ฯ ทั้งที่สายการบินต่างๆ โดยการนำของ คณะกรรมการดำเนินการธุรกิจการบินแห่งประเทศไทย ชูธงรณรงค์การกำจัดสิ่งแปลกปลอมบนลานจอดมาจนจะครบปี
แต่ทุกวันนี้ ขยะ เหล่านี้ก็ยังพบเห็นอยู่ซึ่งมันเกิดจากความมักง่ายของคนซึ่งต้องมีบทลงโทษอย่างเฉียบขาดจากเจ้าของพื้นที่ซึ่งก็คือ ทอท.
เรามีการทรุดตัวของทางขับที่แก้กันมาจนจะครบ ๑๐ปี แล้วก็ยังแก้ไม่จบ
บางที ทอท.อาจจะต้องพิจารณา สับเปลี่ยน บุคลากรดูบ้างนะครับ
ท่านใช้คนเดิมๆ การแก้ปัญหาก็จะออกมาแบบเดิมๆ คนเราบางครั้งก็งมงายหาเหตุผลไม่เจอ เชื่ออะไรก็เชื่ออยู่อย่างนั้น
การเปลี่ยนคนจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนวิธีการครับ ทอท.อาจจะได้วิธีผสมสูตรแอสฟัลท์ใหม่ๆ ที่อย่างน้อยต่อให้ใช้ทางขับผิดวิธีอย่างไรก็ไม่น่าจะต้องปิดพื้นที่เพื่อซ่อมกันทุก ๓ เดือน ๖ เดือน แบบนี้
เปลี่ยนเรื่องสักนิดแต่ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องความปลอดภัยครับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินหนึ่งปีกเกี่ยวเข้ากับสะพานเทียบส่งผลให้ผู้โดยสารต้องรออยู่บนเครื่องนับชั่วโมงกว่าการเคลื่อนย้ายจะสำเร็จ
ผู้อ่านท่านครับจนถึงบัดนี้ที่ผมเขียนคอลัมน์รับใช้ท่านยังไม่มีการแจ้งใดๆจากฝ่ายมาตรฐานการบินของสุวรรณภูมิไปยัง กรมการบินพลเรือน และยิ่งต้องปวดใจเป็นสามเท่าเมื่อวินาทีที่เกิดเหตุฝ่ายที่รับผิดชอบได้แจ้งไปยัง จนท.เวรฯของกรมฯ เรียบร้อย เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในเวลากลางคืน
รุ่งเช้ามีการประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแต่ไร้เงาผู้คุ้มกฎอย่าง กรมการบินพลเรือนของประเทศไทยไชโยโผล่หน้ามาเข้าประชุมทั้งๆ ที่ จนท.เวรฯได้รับแจ้งเหตุด้วยวาจาไปแล้ว
การทำงานเชิงรุกก็คือท่านต้องติดต่อสอบถามทันทีกับ ผู้อำนวยการท่าฯ ว่าเหตุมันเกิดขึ้นได้อย่างไรจะมีการประชุมสอบสวนหาสาเหตุเมื่อไหร่จะได้เข้าร่วมฯ
นี่ท่านรับแจ้งเหตุแล้วแต่รอ รายงาน ที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากฝ่ายมาตรฐานการบินของสุวรรณภูมิ ซึ่งแน่นอนว่าต้องรอคลื่นลมสงบก่อนถึงจะฟันธงว่าเรื่องนี้เข้าขั้น อุบัติเหตุ หรือไม่
เพราะถ้าเข้าขั้นอุบัติเหตุ กรมฯ ถึงจะสามารถเข้ามาตรวจสอบได้อย่างเท่ๆเหมือนตำรวจในหนังไทยที่ชอบมาตอนจบหลังจากปล่อยให้พระเอกกับนางเอกยิงสู้กับคนร้ายราวสองร้อยคนเรียบร้อย
แสดงให้เห็นถึงระเบียบปฏิบัติที่ไม่เอื้อต่อการทำงานอย่างแท้จริงครับทุกวินาทีที่เครื่องบินอยู่บนพื้นคือค่าใช้จ่ายที่สายการบินต้องจ่ายโดยไม่มีรายรับ
สมควรหรือยังที่ต้องโดนธงแดง
สมควรรึยังที่ รมว.จะหลุดปากว่ามันก็ยังงงๆ อยู่
ราชการไทยนั้นอุดมไปด้วยคนเก่งครับเพราะท่านทำงานและฝึกอบรมมาในเรื่องนั้นๆจนมีความชำนาญจริงๆ
แต่คนเก่งๆไม่เคยได้รับการโปรโมทให้มีอำนาจตัดสินใจก็เลยพาลเข้าเกียร์ว่าง
ทุกคนเลือกเดินทางลัดด้วยการเข้าหานายเข้าไปเรียนในหลักสูตรสร้างเครือข่าย
ผมเรียนท่านได้เลยว่าเรากำลังรอวันพลาดครับ
องค์ประกอบทุกอย่างมีครบจริงๆ
เราจะคุยเรื่องนี้กันต่อครับ