ไหน ๆ ก็ใกล้จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple แล้ว (คืนนี้ประมาณเที่ยงคืน) เรามารื้อฟื้นความหลังกับ 1 ในผลิตภัณฑ์เปลี่ยนโลกอย่าง MacBook Air กันดีกว่าครับ
ผ่านไปแล้วกว่า 5 ปี กับตำนานการเปิดตัว “MacBook Air” โดยการใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลเข้มเข้ามากลางงานเปิดตัวในปี 2010 โดยศาสดาอย่าง สตีฟ จอบส์ ด้วยรูปร่างที่สุดเพรียวบาง กับประสิทธิภาพที่โดดเด่นทั้งเรื่องความเบา,บาง แบตเตอรี่สุดถึกทนและ Spec ที่หรูมาก จึงถือได้ว่าเป็น 1 ในเครื่องทำงานพกพาที่ฮิตติดลมบนยิ่งกว่า MacBook Pro เป็นอย่างมาก และเป็น 1 ในต้นกำเนิดนวัตกรรม Notebook รูปแบบใหม่ที่บาง เบา ประสิทธิภาพสูงในชื่อ Ultra Book อีกด้วย..
ที่มาของภาพ: saggiamente
แต่อยู่ดี ๆ ทาง Apple ก็เหมือนเริ่มที่จะทำการนำชื่อ Air ออกไปจากตลาดของตัวเองอย่างช้า ๆ จากที่ล่าสุด Apple ได้เปิดตัว MacBook Pro ออกมาในรูปแบบเดียวกับ MacBook Air ตั้งแต่ในเรื่องความบางอันเป็นเอกลักษณ์ และ Spec ที่สูงมาก ๆ มาพร้อมจอ Retina Display และนวัตกรรมใหม่อย่าง USB Type-C จนเรียกได้ว่าเหนือชั้นกว่า MacBook Air ทุกสิ่ง จนดูเหมือน Apple นั้นได้ทอดทิ้งชื่อ “MacBook Air” ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ที่มาของภาพ: youtube
เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ทาง Apple ได้แบ่งสายออกเป็น 2 รูปแบบคือ MacBook Pro ตัวใหญ่ ประสิทธิภาพสูง เหมาะแก่การทำงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้งานเครื่องหนัก ๆ เช่นการตัดต่อผ่าน Final Cut เป็นต้น และ MacBook Air เป็นเพรียวบาง ประสิทธิภาพปานกลาง เหมาะกับการทำงานเอกสาร เล่นอินเทอร์เน็ตชิล ๆ ในร้าน Starbucks แล้วถ่ายรูปคู่แก้วกาแฟ (ที่อาจจะล้างมาจากบ้าน) เสร็จแล้วก็ติด Hashtag #Slowlife กันไป กลับกลายมาเป็น MacBook Pro ที่เข้ามาแทนที่ไปหมดแล้วทั้งรูปร่างและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างมากมาย
MacBook Air กำลังถูกทิ้งเอาไว้โดยที่ Apple ไม่ได้หาทางที่จะดึงกลับมาเลยแม้แต่น้อย
โดยปกติ Apple นั้นเป็นบริษัทที่สามารถทอดทิ้งสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายถ้าสิ่งนั้นเริ่มหมดคุณค่าในตัวมันไปแล้ว ซึ่งทุกวันนี้ MacBook Air เรียกได้ว่าไปถึงจุดที่เทคโนโลยีความบางเพียงอย่างเดียวไปถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ในอีกความหมายหนึ่งคือ Apple ตั้งใจที่จะทำให้ MacBook Air เข้าสู่ทางตันในสายการผลิตอย่างช้า ๆ ซึ่งทำให้เหล่าสาวกมีทางเลือกเพียงน้อยนิดคือ รอให้ Apple เปิดตัว MacBook Air ในรูปแบบใหม่ที่มีความแตกต่างจาก MacBook Pro ดังเช่นการเปิดตัวในงานเมื่อ 5 ปีก่อน หรืออาจจะถูกปล่อยให้หายไปตามกาลเวลาดังเช่นทุกวันนี้…
ที่มาของภาพ: macrumors
และยังไม่เพียงเท่านี้ เพราะ iPad Pro ที่มาพร้อมขนาดใหญ่สุด 12.9 นิ้วสามารถใช้งานทั้งคีย์บอร์ด เม้าส์แบบเดียวกับ MacBook Air รวมไปถึงการใช้งาน Stylus หรือปากกาสำหรับเขียนบนหน้าจอได้ (แน่นอนว่ามือด้วย) รวมทั้งยังสามารถเปิดการทำงานแอปได้พร้อมกันถึง 2 ตัว โดยแบ่งออกเป็น 2 ข้างซ้ายขวา และยังมีแอปต่าง ๆ หลายตัวที่สามารถใช้งานชดเชย MacBook Air ได้อย่างมากมายในยุคปัจจุบัน ทั้งการพิมพ์งาน, ทำ KeyNote, ตัดต่อคลิป และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องมานั่งบูทเครื่องแบบ MacBook Air ให้เสียเวลาอีกด้วย
ที่มาของภาพ: engadget
รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ PC Notebook ก็หันมาเอาดีทางด้านตลาดความบางในชื่อรุ่น UltraBook จากหลาย ๆ ค่าย ซึ่งไม่เพียงแค่บาง แต่ Spec ก็สูงกว่า Macbook Air ระดับเทียบกันไม่ได้ (แถมบางรุ่นเอามาลง Mac OS X ได้เลยด้วยซ้ำ) แต่ยังไง Ultrabook ก็ยังไม่สามารถสู้ได้ในด้านของความอึดของแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ไม่นานและในเรื่องของการระบายความร้อนที่เป็นปัญหามากสำหรับ Ultrabook ซึ่งปัญหานี้ได้ถูกแก้ไขทั้งหมดแล้วด้วย Dell XPS 13 เพราะได้นำเอานวัตกรรมใหม่อย่าง Intel Skylake มาใช้เป็น CPU จึงทำให้ทั้งประหยัดแบตแถมยังเย็นกว่า CPU รุ่นเก่าเป็นอย่างมาก ตัดปัญหาเก่า ๆ ที่แก้ไขไม่ได้ออกไปได้เลย
สรุปโดยสั้น ๆ ว่าถ้า Apple ไม่อยากทอดทิ้งชื่อ “Air” ของตัวเองไปเฉย ๆ ปีนี้หรือปีหน้าจะต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในหมวด MacBook Air มาให้สาวกแอปเปิ้ล “ปาเงินใส่จอ” กันอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่มีก็ถือได้ว่า Apple ได้บอกลา “Air” ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย…
ที่มาของภาพ: apple
ที่มา: theverge