ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเราเห็นงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ 2 ครั้งของ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีคือ Apple และ Microsoft
ในงานรอบแอปเปิ้ลนั้น เราได้เห็น iPhone 6s ที่ปรับปรุงความเร็วและเพิ่มความสามารถ 3D Touch เข้าไป ก็เป็นไปตามระเบียบของการปรับปรุง iPhone ที่ทุกครั้งคือการปรับเครื่องให้เร็วขึ้น และเพิ่มความสามารถใหม่เข้าไปอีกนิดๆ หน่อยๆ ที่ดูน่าจะแปลกใจหน่อยคือการเปิดตัว iPad Pro ที่เป็นการยกสายผลิตภัณฑ์ iOS ให้เข้าสู่ตลาดผู้ใช้มืออาชีพมากขึ้น พร้อมเปิดตัวปากกาสำหรับให้ศิลปินใช้งานโดยเฉพาะ
คล้อยหลังมาไม่ถึงเดือนดี ไมโครซอฟท์ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุดใหญ่ที่ตอกย้ำว่าไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนจากบริษัทที่เน้นพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเดียวมาผลิตฮาร์ดแวร์ที่ก้าวล้ำไม่แพ้อุปกรณ์จากแอปเปิ้ลที่ทำคอมพิวเตอร์ ทำโทรศัพท์มายาวนาน และถ้าพูดกันตรงๆ การเปิดตัวของไมโครซอฟท์นั้นน่าตื่นเต้นกว่าของแอปเปิ้ลเยอะ
ถ้ามองผ่านมวลเมฆหมอกถ้อยคำที่สวยหรูจากแอปเปิ้ล (พวก Incredible, Beautiful, Amazing) จะพบว่าผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลรอบนี้ไม่ได้แปลกใหม่เท่าไหร่เลย iPhone ก็เป็นการต่อยอดของเดิมที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นตามรอบการพัฒนา iPad Pro ก็ทำตามแนวทางของ Surface ที่ออกมาก่อนหลายปี และเมื่อมองจากปัจจุบันก็ยังไม่เห็นว่าแอปที่มีอยู่บน iOS จะมีทางตอบสนองงานในระดับมืออาชีพได้ดีกว่าโปรแกรมบน Windows ยังไง เอาแค่การเขียนบล็อกที่ต้องเปิดข้อมูลหลายๆ หน้า ต้องทำรูป ต้องปรับขนาดไฟล์ภาพให้เล็ก ทำบน iOS ก็ยังเหนื่อยกว่าบน Windows หรือ OSX มาก นี่ยังไม่ได้พูดถึงการทำกราฟฟิค การตัดต่อวิดีโอ ที่แอปของ iOS ทำได้เพียงหน้าฉาก ถ้าอยากได้งานที่เนี๊ยบจริงๆ ก็ต้องเอากลับไปทำต่อบนคอมพิวเตอร์อยู่ดี แต่ Surface สามารถจบได้ในตัว
หันมามองที่ฝั่งไมโครซอฟท์ในช่วงหลังๆ โดนมรสุมหนักมาก ทั้ง Windows Phone ที่ล้มเหลวจนเรียกว่าสิ้นเชิงก็ได้ ส่วน Windows 8 ก็ดันการใช้งานแบบแท็บเล็ตไม่ขึ้น ในขณะที่ Surface ก็ล้มลุกคลุกคลาน ลองผิดลองถูกอยู่นาน แต่ความเจ็บปวดเหล่านี้และสายป่านที่ยาวพอของไมโครซอฟท์ ก็ทำให้ออกผลิตภัณฑ์ที่ดูมีอนาคตได้สำเร็จ
- เริ่มตั้งแต่ Windows 10 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด One Windows หรือระบบปฏิบัติการตัวเดียว สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์หลายขนาด จึงไม่ต้องทำแอปเฉพาะตัวสำหรับอุปกรณ์ชนิดต่างๆ แถมยังปรับแต่งจนทำงานรวดเร็ว มีความสามารถหลายอย่างที่ทันยุคสมัย
- Lumia ที่ใช้ Windows 10 แล้ว ทำให้มีโอกาสได้แอปใหม่ๆ มากขึ้น และทีเด็ดคือเสียบสายต่อจอใช้แบบ PC ได้ ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการทำงาน
- Surface ที่ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 4 ก็เป็นตัวแทนของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วินโดวส์สมัยใหม่ ที่ฉีกกรอบเครื่องตั้งโต๊ะดั่งเดิม ได้สำเร็จ
- Surface Book โน้ตบุ๊กฝั่ง Windows ที่ตามความเนี๊ยบในการออกแบบของแอปเปิ้ลได้สำเร็จ ในรูปแบบที่ไม่เลียนแบบ Macbook
- HoloLens โครงการเพื่ออนาคตที่เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่แอปเปิ้ลก็ยังไม่มีแววได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ฉีกรูปแบบการใช้ในอนาคตแบบนี้
ผลิตภัณฑ์รอบใหม่ของไมโครซอฟท์ในครั้งนี้จึงกลับไปตีแสกหน้าแอปเปิ้ลว่าแนวคิดใหม่ๆ ความว้าวใหม่ๆ อยู่ที่ไหนกัน นี่ต่อยอดความสำเร็จเดิม หรือยืมแนวคิดคนอื่นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสำเร็จ (เช่น iPad Pro, Apple Watch) นานเกินไปแล้วนะ
อย่างไรก็ตามโมเมนตัมของผู้ใช้ก็ไม่ได้เปลี่ยนข้ามค่ายจากแอปเปิ้ล-ไมโครซอฟท์กันทันที คนที่ใช้ iOS ใช้ Mac OSX อยู่แล้วก็มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลต่อไป แต่ผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ก็น่าจะทำให้คนที่ชื่นชอบฮาร์ดแวร์คุณภาพดีเปลี่ยนค่ายจากแอปเปิ้ลมาซบอกไมโครซอฟท์ได้ง่ายขึ้น
แต่คนที่น่าหนักใจที่สุดและเราไม่เคยเอ่ยในบทความนี้เลยก็น่าจะเป็น Partner ของไมโครซอฟท์อย่าง Acer, Asus, HP, Dell ฯลฯ ที่ไมโครซอฟท์ทนเจ็บสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองมานาน จนในที่สุดก็มีผลิตภัณฑ์ที่ดูดีเกินหน้าพาร์ทเนอร์ทุกราย ซึ่งถ้าแบรนด์เหล่านี้ยังไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดได้ ก็คงเหลือแต่ตลาดอุปกรณ์ราคาประหยัด ที่กำไรแสนบางเบา และคู่แข่งเพียบให้ผ่าฟันกันต่อไป