ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตมากมาย เราลองมาดูสิ่งประดิษฐ์ (Gadget) จำนวน 11 ชิ้นในช่วงศตวรรษที่ผ่าน ที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ซึ่งสิ่งประดิษฐ์บางชิ้นนั้นเราอาจไม่เคยมีไว้ครอบครอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราได้รับผลประโยชน์จากอิทธิพลของมันที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของเทคโนโลยีในกาลต่อมา
1. โมเด็ม (Modem)
เราไม่อาจเรียกอินเตอร์เน็ตว่าสิ่งประดิษฐ์ได้ ดังนั้นจึงขอมุ่งประเด็นที่ที่โมเด็มแทน ซึ่งโมเด็มที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน (Software-Controlled Modem) เริ่มเข้าสู่ตลาดในช่วงยุค 1980 พร้อมๆกับการมาของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรก และ Wi-Fi เราเตอร์ (Router) ในระดับผู้บริโภคก็เริ่มแพร่หลายอย่างช้าๆในช่วงต้นศตวรรษที่ 21
2. iPhone
“สมาร์ทโฟน” ไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนโลกของโทรศัพท์มือถือไป แต่เป็นการเปิดตัวของ iPhone ต่างหากที่ทำให้รูปแบบของโทรศัพท์มือถือต้องเปลี่ยนแปลงไป โดย Steve Jobs และทีมวิศวกรของ Apple ได้มองว่า iPhone นั้นมีการทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัส (Touchscreen) เป็นประการสำคัญ และการทำงานเป็นโทรศัพท์มือถือคือสิ่งที่ตามมา
สมาร์ทโฟนได้ขยายความนิยมไปอย่างรวดเร็ว โดยในปัจจุบันนี้ รูปทรงของสมาร์ทโฟนก็ไม่ได้ต่างไปจากแบบแผนที่ Steve Jobs วางเอาไว้สักเท่าไรนัก
3. กล้องดิจิตอล
กล้องดิจิตอลตัวแรกถูกเปิดตัวในช่วงปลายยุค 1980 ซึ่งมันทำงานได้ช้าและมีราคาแพงมาก อีกทั้งภาพที่ถ่ายนั้นยังด้อยคุณภาพเอามากๆอีกด้วย แต่มันก็ได้เปลี่ยนวิธีการบันทึกภาพไปตลอดกาล
ในเวลาต่อมา กล้องดิจิตอลก็ได้เพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพได้อย่างสะดวกสบาย สามารถถ่ายภาพเป็นพันภาพได้ด้วยกล้องตัวเดียว ไม่ต้องใช้ฟิล์มเป็นโหลเหมือนเมื่อก่อน และท้ายที่สุดก็คือการแชร์ภาพที่ทำได้ในไม่กี่วินาที
4. เกมบอย (Game Boy)
เกมบอยเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ปฏิวัติอุปกรณ์เล่นเกมส์และให้ความบันเทิงแบบพกพา มันเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถพกติดตัวได้ ราคาไม่แพง และยังมอบความสนุนสนานให้กับผู้เล่นอีกด้วย นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ Nintendo สามาถขายเกมบอยได้ราว 118 ล้านเครื่อง และถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนจะเข้ามาแทนที่ในปัจจุบัน แต่เกมบอยก็คือสิ่งที่เป็นต้นแบบสำหรับการเล่นเกมส์แบบพกพา
5. โทรทัศน์
จริงอยู่ที่การได้ชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกซีกโลกหนึ่งในเวลาเดียวกันนั้นคือสิ่งธรรมดาในปัจจุบัน แต่โทรทัศน์ก็ยังคงเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราไปนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในช่วงยุค 1930 ซึ่งมันมีรายการให้เลือกรับชมอย่างหลากหลาย และได้ยกระดับการติดต่อสื่อสารและการรับข้อมูลของมนุษย์ให้ไปไกลยิ่งขึ้น
6. เครื่องเล่น MP3
MP3 คือการแปลงเพลงลงในรูปแบบไฟล์ที่ทั้งเล็กลงและยังคงคุณภาพของเสียงไว้เช่นเดิม และเมื่อได้มีการเปิดตัวเครื่องเล่น MP3 ตัวแรก ความจุของเครื่องเล่นก็ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จากบรรจุได้เพียงแค่ 10 เพลง ก็กลายเป็น 1,000 เพลงในปัจจุบัน
7. รีโมทคอนโทรล
รีโมทคอนโทรลอาจจะดูเหมือนเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ได้มีความสำคัญมากนัก แต่หากลองพิจารณาถึงอรรถประโยชน์ของมันแล้ว จะพบว่ามันมีผลต่อชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง Nikola Tesla ได้ประดิษฐ์รีโมทคอนโทรลเครื่องแรกสำหรับใช้ควบคุมคลื่นวิทยุ และไดัมีการพัฒนาต่อมาในปี 1898 โดยเรียกว่า Teleautomaton
แม้ในปัจจุบันจะมีอุปกรณ์ Wearable และ สมาร์ทโฟนเปิดตัวมากมาย แต่รีโมทคอนโทรลก็ยังคงความสำคัญอยู่เช่นเดิม
8. เมาส์
รูปลักษณ์ของเมาส์สำหรับคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักนับแต่เริ่มมีการใช้ในยุค 1960 และมันก็กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พลิกรูปแบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ไปอย่างสิ้นเชิง มันช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานแก่คอมพิวเตอร์ได้สะดวกสบายเพียงแค่การคลิกเท่านั้น
9. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ในอดีต คอมพิวเตอร์ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ทุกคนจะสามารถเป็นเจ้าของได้ ด้วยราคาที่สูงลิ่วและต้องใช้พื้นที่ประมาณหนึ่งห้องในการจัดเก็บตัวเครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์พื้นฐาน (Rudimentary PC) ได้เริ่มเป็นที่รู้จักในยุค 1950 แต่คอมพิวเตอร์จำนวน 3 เครื่อง ได้เปิดตัวต่อมาในปี 1977 ได้แก่ Commodore PET, Apple II และ Tandy TRS-80 ซึ่งได้จุดประกายในการปฏิวัติไมโครคอมพิวเตอร์ และพัฒนาเป็นแล็บท็อปและเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันนี้
10. เครื่องเบิกเงินสด
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่มากนัก แต่มันก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตในปัจจุบันไปแล้ว (จนกระทั้งสมาร์ทโฟนเริ่มเข้ามามีบทบาทในการชำระเงิน) โดยเครื่อง Automated Teller Machine เครื่องแรกถูกเปิดตัวในปี 1967 ซึ่งเป็นยุคที่ทุกคนต่างต้องถอนเงินโดยตรงจากธนาคาร
11. Kindle
Amazon Kindle ไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เครื่องแรก แต่มันกลับมีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงผู้คนมากมาย มันช่วยในการจัดเก็บ E-Book ของ Amazon ที่ถูกนำออกมาขายในราคาถูกได้เป็นจำนวนมาก และได้เปลี่ยนพฤติกรรมการอ่านหนังสือของเราให้สามารถเชื่อมต่อกับทั่วทุกมุมโลกได้
ที่มา : msn.com