OPPO เผยว่าการผลิตสินค้าคุณภาพสูงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์จึงได้มีการควบคุมคุมภาพผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด ซึ่งหัวใจหลักของการสร้างสินค้าคุณภาพสูงก็มาจาก OPPO QE Realiability Lab ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2017 ในโรงงานที่ประเทศอินเดีย
กว่าจะมาเป็น OPPO F21 Pro สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่สัปดาห์ก่อนก็ต้องผ่านกระบวนการนับพันขั้นตอน เอกลักษณ์ของเครื่องนี้คือสีตัวเครื่องที่เป็นหนังเทียม “สีส้มพระอาทิตย์ตก (Sunset Orange)”
นักออกแบบของ OPPO เริ่มต้นจากการเลือกรูปแบบผิวสัมผัสวัสดุที่แตกต่างกันหลายพันรูปแบบ จนได้ 6 รายการที่ถูกส่งไปทำวิจัยด้านการตลาด จนได้เป็นดีไซน์ที่เปิดตัวมานี้
วัสดุด้านหลังของตัวเครื่องเป็นหนังเทียม (fiberglass-leather) ที่ได้รับการทดสอบความทนทานโดยถูด้วยแผ่นชุ่มแอลกอฮอล์ ยางลบ และผ้าเดนิมจำนวน 5,000, 10,000 และ 200,000 ครั้งตามลำดับ
ส่วนการทดสอบการตก (drop test) ก็ถูกทำให้มีความเข้มงวดมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยปล่อยมือถือให้ตกที่ความสูง 1 เมตร จากปกติที่ 0.8 เมตร และตัวมือถือจะถูกปล่อยจากทั้ง 6 ด้าน, 8 มุม, 12 ขอบ จำนวน 12 ถึง 24 ครั้ง จากนั้นจึงถูกปล่อยด้วยความสูง 1.5 เมตร ในการทดสอบอีก 3 ครั้ง
ถัดจาก drop test ก็ตามมาด้วยการทดสอบอีกหลากหลาย อันดับแรกคือคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น โดย OPPO จำลองสถานการณ์เหมือนฝนตกในอัตรา 10 ลิตร/นาที ด้วยมุม 75 องศา เพื่อให้สมาร์ตโฟนได้มาตรฐาน IPX4 และยังมีการจับสมาร์ตโฟนจุ่มน้ำลึก 20 ซม. เป็นเวลา 30 วินาที ปล่อยแห้ง และจากนั้น 3 วันก็จะมีการแยกส่วนสมาร์ตโฟนที่ทดสอบเพื่อตรวจสอบว่ามีน้ำเข้าไปภายในหรือไม่
อันดับที่ 2 คือการทดสอบความชื้นและการทนทานต่อสภาพอากาศ ซึ่งบริษัทได้นำสมาร์ตโฟนเข้าสู่ตู้พิเศษที่สามารถควบคุมความชื้นและอุณหภูมิได้ โดยหนึ่งในการทดสอบคือสภาพความชื้นสัมพัทธ์ 95% ที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 14 วัน (ในขณะที่มาตรฐานการทดสอบทั่วไปคือ 3 วัน) โดย OPPO ได้ทดสอบทั้งในขณะที่เปิดและปิดเครื่อง
การทดสอบความทนทานต่อสภาพอากาศนั้นยาวนานกว่าการทดสอบทั่วไปถึง 4 เท่า (ใช้เวลา 300 ชม.) โดยหลังจากทดสอบสภาพอากาศที่มีความร้อนชื้นสูง OPPO ก็ยังได้ทดสอบสมาร์ตโฟนที่เย็นเยือกถึง -40 องศาเซลเซียส
อันดับที่ 3 คือการทดสอบการทนต่อเหงื่อ หรือก็คือน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือซึ่งเป็นอันตรายมากกว่าน้ำเปล่าทั่วไป โดย OPPO F21 จะถูกสาดน้ำเกลือเข้มข้น 5% ใส่เป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง ในขณะที่ถูกทิ้งไว้ในพื้นที่ร้อนชื้นสูง 50 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 95% โดยสมาร์ตโฟนจะต้องไม่เกิดความเสียหายใด ๆ จึงจะผ่านการทดสอบได้
นอกจากนี้บริษัทยังได้ทำการทดสอบอีกมากมาย เช่น การทดสอบระยะเวลาใช้งานของไฟแฟลชกล้องหลัง เป็นต้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส