สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า Samsung บริษัทเทคโนโลยี และผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ได้เข้าเจรจากับลูกค้าเกี่ยวกับการปรับค่าผลิตชิปของตนเพิ่มขึ้นอีก 15 – 20% โดยขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของชิปที่จะผลิต
Samsung นั้น เป็นบริษัทล่าสุดในภาคอุตสาหกรรมผลิตชิปที่ต้องการปรับราคาชิปที่ตนผลิต เนื่องจากปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ส่งผลกระทบไปยังภาคธุรกิจอื่น ๆ ทั่วโลกด้วย
สำนักช่าว Bloomberg ได้กล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้ชิปในผลิตภัณฑ์ของตนนั้นจะต้องเผชิญกับปัญหาราคาชิปที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งจะปรากฏผลชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2022 นี้ และถึงแม้ว่า Samsung จะเจรจากับลูกค้าบางรายไปแล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่ทางบริษัทยังคงเจรจาอยู่
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ธุรกิจผลิตชิปของ Samsung นั้น ประสบความสำเร็จด้วยการทำยอดจำหน่ายในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา มากสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจผลิตชิปของ Samsung ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นประมาณ 30% และทำให้ Samsung ต้องปรับราคาชิปที่ตนผลิตเพื่อคงกำไรของบริษัทเอาไว้
สำหรับคู่แข่งอย่าง TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้ปรับค่าผลิตชิปขึ้นไปอีก 20% ตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมาแล้ว และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอีกในปี 2023
มาซาฮิโระ วากาซูกิ (Masahiro Wakasugi) นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ได้กล่าวว่า “Samsung ต้องดัดสินใจเช่นนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และลูกค้าบางรายก็อาจยอมรับราคาชิปที่สูงขึ้นได้ถ้าหากพวกเขาสามารถได้รับชิปเร็วกว่าบริษัทอื่น”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส