วีโว่ (vivo) ประเทศไทย ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงของทางค่ายประจำปีในประเทศไทยแล้ว กับ vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G ที่มาพร้อมกับแนวคิด ‘Cinematic. Redefined.’ เน้นด้านการถ่ายวิดีโอด้วยเทคโนโลยีจาก ZEISS เหมือนเดิม !
โดย vivo X series นั้นจัดเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่จัดเต็มด้านการใส่กล้องมาโดยตลอด ในปีนี้ทางวีโว่ยังคงใช้เทคโนโลยีกล้องที่ร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์เลนส์กล้องถ่ายภาพสัญชาติเยอรมัน เหมือนกับใน vivo X60 และ X70 Series โดยในรุ่น X80 series นี้ได้มาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพระดับโปรที่วีโว่พัฒนาขึ้นเองในชื่อ vivo V1+ ซึ่งจะทำให้ถ่ายภาพและวิดีโอในสมาร์ตโฟนได้ดีกว่าที่เคย โดยในปีนี้จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน ประกอบไปด้วย vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G
ชิปประมวลผลภาพ vivo V1+ ที่ทางวีโว่ได้พัฒนาขึ้นมานั้น เป็นชิปที่พัฒนาด้วยระบบ AI ในตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้เป็นมืออาชีพ มีคุณสมบัติ AI Video Enhancement เข้ามาเสริมประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้อุปกรณ์สามารถสามารถสลับโหมดระหว่างวิดีโอ HDR และโหมดกลางคืนได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
และอย่างที่บอกไปว่าทางวีโว่ได้ร่วมมือกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนากล้องสมาร์ตโฟน เลยทำให้ vivo X80 series 5G ได้มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ได้ร่วมดีไซน์กับ ZEISS มา อย่างเช่น
- คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอที่ชื่อว่า ‘ZEISS Cinematic Video Bokeh’ ที่ช่วยถ่ายวิดีโอออกมาให้มีความหว้างมากขึ้น เหมือนถ่ายจากเลนส์ Anamorphic ในอัตราส่วนภาพ 2.39:1 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้สวยงามสมจริง อัตราส่วนเหมือนในกล้องถ่ายภาพยนตร์
- คุณสมบัติการถ่ายภาพบุคคล ZEISS Superb Portrait ที่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าไป อย่าง ZEISS Cinematic Style Bokeh ที่ช่วยถ่ายภาพให้มีเอฟเฟคแสงแฟลร์สำหรับถ่ายภาพออกมาเสมือนภาพบนจอภาพยนตร์
- คุณสมบัติถ่ายภาพกลางคืน ZEISS Superb Night Camera ที่เพิ่มคุณสมบัติที่ปรับปรุงใหม่อย่างฟีเจอร์ Pure Night View ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้คมชัด สมจริง
สเปกของ vivo X80
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 2400×1080 (FHD+)
- ชิปเซต MediaTek Dimensity 9000 รองรับ 5G
- แรมขนาด 12 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (มาพร้อม Ultra-Sensing Sensor) (f/1.75) + กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (f/1.98) และกล้องวัดระยะเพื่อถ่าย Portrait ขนาด 12 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.45)
- แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh, ชาร์จไฟเร็วผ่าน vivo FlashCharge 80W
- น้ำหนัก 206 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นกระจก มาใน 2 สี : Cosmic Black และ Urban Blue และกันน้ำตามมาตรฐาน IP68
- ซอฟต์แวร์ Funtouch OS 12 (based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 29,999 บาท
สเปกของ vivo X80 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 3200×1440 (WQHD+)
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 รองรับ 5G
- แรมขนาด 12 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (มาพร้อม Ultra-Sensing GNV และ Gimbal Stabilization) (f/1.57) + กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (f/2.2) กล้องวัดระยะเพื่อถ่าย Portrait ขนาด 12 ล้านพิกเซล (f/1.85) และกล้อง Periscope หรือกล้องแบบเรือดำน้ำ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/3.4)
- กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.45)
- แบตเตอรี่ขนาด 4,700 mAh, ชาร์จไฟเร็วผ่าน vivo FlashCharge 80W และชาร์จไร้สายผ่าน vivo Wireless FlashCharge สูงสุด 50W
- น้ำหนัก 219 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นกระจก มาใน 2 สี : Cosmic Black และกันน้ำตามมาตรฐาน IP68
- ซอฟต์แวร์ Funtouch OS 12 (based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 39,999 บาท
vivo X80 series 5G ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป โดยจะวางจำหน่ายที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา, ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำร้านต่าง ๆ, ที่ผู้ให้บริการเครือข่าย AIS,True,Dtac และ vivo Official Store บนร้าค้าออนไลน์ทั้ง LAZADA, Shopee, JD Central และ Thisshop
ตัวอย่างเครื่องวางขายจริงของ vivo X80 Series 5G
และเหมือนเดิมจะได้นำเอาภาพตัวอย่างเครื่องจริงของทั้ง vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G มาให้ทุกคนได้ชมกัน แต่ก่อนอื่น ถ้าทุกคนอยากดูรีวิวละก็ พี่หนุ่ย-พงศ์สุขก็ได้รีวิวเอาไว้ให้ทุกคนดูแล้วเช่นเดียวกันครับ !
ส่วนภาพตัวเครื่องก็ตามนี้เลย !
รอบตัวเครื่องของ vivo X80 5G (สี Urban Blue)
รอบตัวเครื่องของ vivo X80 Pro 5G (สี Cosmic Black)
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก vivo X80 Series 5G
ทุก ๆ ภาพสามารถกดที่ภาพเพื่อดูรูปเต็มได้นะ !
vivo X80 5G
vivo X80 Pro 5G
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส