Qualcomm ได้เปิดตัวเชิปเซตเรือธงล่าสุดสำหรับสมาร์ตโฟน นั่นคือ Snapdragon 8+ Gen 1 (SM8475) ซึ่งได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านความเร็ว และการประหยัดพลังงาน เพื่อลบจุดด้อยจาก Snapdragon 8 Gen 1 ที่มีปัญหาด้านความร้อน
Snapdragon 8+ Gen 1 ได้รับการผลิดด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ของ TSMC โดยมีซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 10% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 30% ซึ่งประกอบด้วยแกน Cortex-X2 สำหรับประมวลผลระดับสูงมีความเร็วสูงสุดที่ 3.2 GHz ในขณะที่แกน Cortex-X2 ของ Snapdragon 8 Gen 1 นั้น มีความเร็วสูงสุดที่ 3.0 GHz
เสริมด้วยแกน Prime ความเร็วสูงสุด 3.2 GHz,, แกน Gold ความเร็วสูงสุด 2.75 GHz และแกน Silver ความเร็วสูงสุด 2.0 GHz
ในส่วนของหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือจีพียู (GPU: Graphic Processing Unit) นั้น มีความเร็วสูงขึ้น 10% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 30% อีกทั้งยังมีเอนจิน AI ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 20%
โดยรวมแล้ว Snapdragon 8+ Gen 1 มีศักยภาพในการประหยัดพลังงานดีขึ้น 15% ซึ่งส่งผลทำให้ใช้งานในหลาย ๆ ด้านได้ยาวนานกว่าเดิม เช่น สตรีมวิดีโอได้นานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง และโทรได้นานขึ้น 5 ชั่วโมงครึ่ง เป็นต้น
สเปกอื่น ๆ ของ Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 มีดังนี้
- รองรับแรม LPDDR5 ได้สูงสุด 16 GB
- รองรับสตอเรจ UFS 3.1
- รองรับการแสดงเนื้อหาระดับ QHD+ สูงสุดที่ 144 Hz หรือ 4K ที่ 60 Hz โดยรองรับการเรนเดอร์สีระดับ 10 บิต และ HDR10+
- ติดตั้งชิปโมเดม Snapdragon X65 รองรับความเร็วสูงสุด 10 Gbps
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6/6E ความเร็วสูงสุด 3.6 GHz, Bluetooth 5.3
- รองรับเทคโนโลยีเสียง aptX Lossless, Bluetooth LE Audio
- รองรับเซนเซอร์ภาพความละเอียดสูงสุด 200 ล้านพิกเซล, บันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30 Fps หรือ 4K ที่ 120 Fps เสริมด้วยการประมวลผลลด Noise, ปรับแสงแบบ DoL HDR, เอนจิน Bokeh และรองรับไฟล์ฟอร์แมต HLG, HDR10+ และ Dolby Vision
Qualcomm กล่าวว่า ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาชิปเซตให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพร่วมกับแบรนด์พันธมิตรต่าง ๆ ได้แก่ Asus ROG, Black Shark, HONOR, iQOO, Lenovo, Motorola, Nubia, OnePlus, Oppo, OSOM, Realme, Red Magic, Redmi, Vivo, Xiaomi และ ZTE โดยอุปกรณ์รุ่นแรกที่จะได้ติดตั้งชิป Snapdragon 8+ Gen 1 นั้น จะได้รับการเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม – กันยายน 2022) นี้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส