เป็นเรื่องสุดสะเทือนขวัญของวงการรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างระบบ Autopilot ของทาง Tesla ที่ได้ทำการคิดค้นและมีพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 หรือปีที่แล้ว แต่งานนี้ถือได้ว่าเป็น 1 ในเคสที่ร้ายแรงที่สุดของอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดในการประมวลผลของเจ้าระบบ Autopilot นี้จนเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลให้คนขับรถเสียชีวิตทันที !!
อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นที่บริเวณทางแยกแห่งหนึ่งบนทางหลวงในรัฐฟลอริดา ซึ่งผู้ประสบอุบัติเหตุนั้นคือนายโจชัว ดี บราวน์ (Joshua D. Brown) อายุ 40 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะขับรถมาถึงทางแยกนี้ ก็ได้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังเลี้ยวรถขวางถนนอยู่ ซึ่งปกติถ้าระบบ Autopilot ทำงานปกติ รถจะทำการเบรคให้อัตโนมัติ แต่งานนี้ระบบเกิดการประมวลผลผิดพลาดจากสีของรถบรรทุกที่เป็นสีขาวคล้ายกับท้องฟ้าที่ค่อนข้างสว่าง ณ เวลานั้น จึงทำให้ระบบไม่สามารถตรวจจับได้ เลยไม่เบรคและพุ่งชนทะลุใต้ท้องรถบรรทุกไป ส่งผลให้ผู้ขับเสียชีวิตทันที
ซึ่งผู้ขับรถบรรทุก นายแฟรงค์ บาเรซซี่ (Frank Baressi) อายุ 62 ปีได้ให้การว่า ผู้ที่ขับรถ Tesla นั้นได้ขับมาด้วยความเร็วสูงมากและไม่ยอมแตะเบรค ภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้วเขาก็รีบเดินไปดูรถอีกฝ่ายทันทีก็พบว่าหน้าจอ console ของเขาได้เปิดภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ไว้อยู่อีกด้วย
และภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น ทาง Tesla Motors ก็ได้มีการออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจบล็อคเว็บไซต์ของบริษัทต่อเหตการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยังได้ชี้แจงว่า ระบบ Autopilot นั้นยังคงต้องการให้คนขับสนใจการขับขี่อยู่ตลอดเวลา โดยจะมีระบบตรวจสอบว่ามือของผู้ขับขี่ยังคงจับพวงมาลัยอยู่หรือไม่? ซึ่งถ้าเขาไม่ได้จับอยู่ระบบก็จะร้องเตือนและค่อย ๆ ลดความเร็วลงจนกว่าผู้ขับขี่จะกลับมาสนใจอีกครั้ง
โดยทางบริษัทยังได้กล่าวถึงอีกว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกหลังจากมีการใช้งานรวมแล้วกว่า 130 ล้านไมล์ ซึ่งโดยทั่วไปอุบัติเหตุบนถนนที่ร้ายแรงถึงชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเกิดขึ้นทุก ๆ 94 ล้านไมล์ แต่ถ้านับรวมทั้งโลกจะอยู่ที่ 60 ล้านไมล์ต่อ 1 อุบัติเหตุร้ายแรง (คงไม่ต้องสืบว่าประเทศไหนทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นขนาดนี้..)
และทางทีมงานแบไต๋ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ที่มา: Forbes