ผู้ผลิตรถยนต์สุดหรูจากประเทศเยอรมนีอย่าง BMW ได้ประกาศว่าจะเปิดตัว “รถไร้คนขับ” ภายในปี 2021 นี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่รายนี้ได้กำหนดเส้นตายในการผลิดรถยนต์ไร้คนชับอย่างชัดเจน
Harald Krueger ซีอีโอของ BMW ได้กล่าวว่า “ในขณะนี้ ระบบ “Hand-Off” สามารถทำให้รถยนต์หมุนพวงมาลัย เบรค และเร่งความเร็วเองได้ แต่ยังต้องมีคนคอยควบคุมจากภายในตัวรถอยู่ และอีกไม่นานก็จะเปลี่ยนเป็น ระบบ “Driver-Off” ที่ไม่ต้องใช้คนควบคุมอีกต่อไป และน่าจะพร้อมออกสู่ตลาดผู้บริโภคภายใน 5 ปีนี้
โปรเจ็คนี้เป็นจะพัฒนาร่วมกับ Intel และ Mobileye
Mobileye บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของประเทศอิสราเอล ซึ่งนอกเหนือจาก BMW แล้ว ยังมี General Motors Co. และ Tesla Motors Inc. เป็นลูกค้ารายใหญ่อีกด้วย
อุบัติเหตุอันน่าเศร้า
เมื่อไม่นานมานี้ รถยนต์ Tesla Model S ได้ประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากระบบ Autopilot (ที่ใช้เทคโนโลยีของ Mobileye) ทำงานผลิดพลาด ไม่สามารถแยกสีขาวของรถบรรทุกับสีขาวของท้องฟ้าได้ จึงทำให้รถยนต์ไม่ลดความเร็วและพุ่งเข้าชนรถบรรทุกอย่างจัง เป็นเหตุให้ผู้ชับขี่วัย 40 ปีเสียชีวิต
Dan Galves หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารของ Mobileye ได้กล่าวว่า “ในปัจจุบันนี้ ระบบ AEB (เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking) ที่ใช้ใน Autopilot ของ Tesla นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการชนท้ายรถโดยเฉพาะ แต่ในกรณีที่มีรถยนต์มาจากทางด้านข้างและกีดขวางเส้นทางอยู่นั้น ระบบจะไม่สามารถคำนวนได้อย่างถูกต้องแม่นยำนัก”
Dan Galves ได้กล่าวเสริมว่า ระบบจะได้รับการปรับปรุงเพื่อตอบสนองและหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในลักษณะนี้ โดยจะเริ่มใช้ได้ในปี 2018
การก้าวข้ามอปุสรรคครั้งสำคัญ
Autopilot เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ที่ต้องได้รับการพัฒนาเป็นอย่างสูงสำหรับการสร้างรถยนตร์ไร้คนขับให้สมบูรณ์ แม้ว่าในตอนนี้ BMW ได้มีระบบการจอดรถยนต์อัตโนมัติแล้วก็ตาม แต่ผู้ขับขี่ก็ควรที่จะบังคับพวงมาลัยเอาไว้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
ทาง BMW จึงได้ร่วมมือกับ Intel และ Mobileye เพื่อให้ทั้งสองบริษัทได้นำเทคโนโลยีกล้องที่สามารถจำลองสภาวะแวดล้อมการขับรถมาผสานรวมกับความสามารถชั้นสูงด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างระบบ AI ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มสนใจที่จะซื้อรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงมากขึ้น ทางผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆจึงได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อที่จะตอบโจทย์ต่อผู้บริโภทให้ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : techinsider, msn.com และ bloomberg.com