ผู้ใช้ iPhone หลายล้านคนในสหราชอาณาจักรอาจมีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากทาง Apple หลังจากที่ จัสติน กัตแมนน์ (Justin Gutmann) ฟ้องต่อคณะกรรมการอุทธรณ์การแข่งขันทางการค้า (Competition Appeal Tribunal) ของสหราชอาณาจักรว่า Apple แอบทำให้ประสิทธิภาพของ iPhone รุ่นเก่าช้าลง
กัตแมนน์อ้างว่า Apple หลอกให้ผู้ใช้งานอัปเดตระบบปฏิบัติการของ iPhone ด้วยคำโฆษณาที่ว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่แท้จริงแล้วกลับทำให้ช้าลง เขามุ่งเรียกร้องค่าเสียหายราว 768 ล้านปอนด์ (33,600 ล้านบาทโดยประมาณ) ให้แก่ผู้ใช้งาน iPhone ราว 25 ล้านคนในสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ Apple เคยปล่อยเครื่องมือในการบริหารจัดการแบตเตอรี่ออกมาพร้อมกันตัวอัปเดตซอฟแวร์ของ iPhone ในเดือนมกราคม 2017 เครื่องมือตัวนี้จะช่วยจัดการปัญหาด้านประสิทธิภาพและป้องกันไม่ให้ iPhone รุ่นเก่า ๆ ปิดตัวเองลงอย่่างกะทันหัน
อย่างไรก็ตาม กัตแมนน์ระบุว่าทาง Apple ไม่ได้ใส่ข้อมูลของเครื่องมือนี้ลงในรายละเอียดของตัวอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ถูกปล่อยออกมาในขณะนั้น อีกทั้งยังไม่มีการระบุอย่างชัดเจนว่าตัวอัปเดตดังกล่าวจะทำให้ iPhone ช้าลง
กัตแมนน์ยังอ้างด้วยว่าที่ Apple ปล่อยเครื่องมือตัวนี้ออกมาก็เพื่อต้องการปกปิดความจริงที่ว่าตัวอัปเดต iOS ข้างต้นจะส่งผลให้แบตเตอรี่ของ iPhone รุ่นเก่ามีปัญหา และแทนที่ Apple จะเรียกคืนสินค้าหรือเสนอเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใหม่ บริษัทกลับผลักดันให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดตัวอัปเดตนั้น
“แทนที่จะทำสิ่งที่มีเกียรติและถูกกฎหมายต่อลูกค้าด้วยการเสนอเปลี่ยน [แบตเตอรี่] ให้ใหม่ หรือเสนอซ่อมอุปกรณ์ฟรี หรือจ่ายเงินชดเชย Apple กลับเลือกที่จะทำให้คนเข้าใจผิดด้วยการซ่อนเครื่องมือ [แก้เครื่องช้า] ไว้ในตัวอัปเดตซอฟแวร์ที่ทำให้เครื่อง [iPhone] ช้าลงถึงร้อยละ 58” กัตแมนน์ระบุ
รุ่น iPhone ที่กัตแมนน์อ้างว่าได้รับผลกระทบ ได้แก่ iPhone 6, 6 Plus, 6S, 6S Plus, SE, 7, 7 Plus, 8, 8 Plus และ iPhone X
Apple ออกมาบอกว่าทางบริษัทไม่เคยตั้งใจลดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์แต่อย่างใดเลย
ทั้งนี้ ในปี 2020 Apple เคยตกลงยอมจ่ายเงินเป็นจำนวน 113 ล้านเหรียญ (ราว 4,000 ล้านบาท) เพื่อยุติการฟ้องคดีที่มีผู้ฟ้องว่า Apple จงใจทำให้ iPhone ทำงานช้าลง
ที่มา BBC News
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส