ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตั้งแต่ยุค 60 และได้รับความนิยมในช่วงเวลาหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับเครื่องเล่นวิดีโอเทป หรือ VCR ที่ล่าสุด บริษัท Funai ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ประกาศยุติการผลิตเครื่องเล่นดังกล่าว หลังจากเดินสายงานการผลิตมาตั้งแต่ปี 1983
เป็นเวลา 33 ปีที่ทางบริษัทได้ผลิต และวางจำหน่ายในท้องตลาด แต่ในปีที่ผ่านมา กลับทำยอดจำหน่ายได้เพียง 750,000 เครื่อง ซึ่งเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดที่เครื่องเล่นดังกล่าวได้รับความนิยมนั้น เคยถูกจำหน่ายมากถึง 15 ล้านเครื่อง ภายในปีเดียว
หนึ่งในเหตุผลที่ทาง Funai ได้ออกมาประกาศในครั้งนี้ คือเรื่องของอะไหล่ และชิ้นส่วนที่นำมาประกอบนั้น หายากมากขึ้นนั่นเองครับ
เมื่อปีที่แล้ว ทางโซนี่ได้ออกมาแถลงถึงการหยุดจำหน่ายม้วนเทป Betamax ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่โซนี่นั้นคิดค้นขึ้นมา และใช้ต่อกรกับม้วนเทประบบ VHS ซึ่งเป็นม้วนเทปที่ใช้งานกับเครื่องเล่น VCR แต่สุดท้ายต้องพ่ายแพ้ หายไปจากตลาดสำหรับผู้บริโภค และกลายเป็นอุปกรณ์ที่บางสายงานยังคงใช้งานอยู่ (อย่างวงการผลิตรายการโทรทัศน์เป็นต้น)
สำหรับเครื่องเล่นวิดีโอเทปนั้น ใช้ระบบอ่านข้อมูลจากแถบแม่เหล็กที่อยู่ในม้วน VHS แปลงสัญญาณข้อมูลให้เป็นภาพและเสียง เทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงยุค 1960 และเป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง จนกระทั่งการมาถึงของเทคโนโลยีในการบันทึกรูปแบบใหม่อย่าง LaserDisc, CompackDisc และ DVD ตามลำดับ ซึ่งดีกว่าระบบเดิม ทั้งเรื่องของภาพ, เสียง, รายละเอียด รวมถึงจำนวนความจุในการบันทึกข้อมูล และการแทนที่ของไฟล์ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้ระบบ VCR และม้วนเทป VHS นั้นเริ่มหมดความนิยมและล่มสลายลงในที่สุด