อลานา เอแวนส์ (Alana Evans) และ เคลลี เพียร์ซ (Kelly Pierce) ผู้ผลิตเนื้อหาผู้ใหญ่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาลในรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวหาว่าเว็บไซต์ OnlyFans ติดสินบนพนักงาน Meta ให้นำชื่อของพวกตนไว้ในรายชื่อเฝ้าระวังการก่อการร้ายออนไลน์ เนื่องจากพวกตนใช้แพลตฟอร์มคู่แข่งของ OnlyFans ในการขายคอนเทนต์
“เมื่อฉันได้ยินว่าเนื้อหาของฉันอาจถูกขึ้นบัญชีเฝ้าระวังผู้ก่อการร้าย ฉันโกรธมาก เพราะว่ามันกระทบรายได้ของฉัน” เอแวนส์กล่าว
รายชื่อเฝ้าระวังผู้ก่อการร้ายนี้จัดทำขึ้นโดยบรรดาบริษัทเทคโนโลยี ได้แก่ Facebook, Microsoft, Twitter และ YouTube ที่รวมตัวกันในชื่อ Global Internet Forum to Counter Terrorism (GIFCT) เมื่อปี 2016 วัตถุประสงค์ของรายชื่อนี้ก็เพื่อป้องกันการผลิตเนื้อหาที่ส่งเสริมการใช้ความรุนแรงบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
ผู้ที่อยู่ในรายชื่อนี้จะถูกแบนบนโซเชียลมีเดียโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ หรือที่เรียกว่า ‘Shadow ban’ ทำให้ผู้ใช้รายอื่นสามารถเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้น้อยลง โดย GIFCT เป็นหนึ่งในจำเลยที่ถูกฟ้องด้วย ซึ่งเอแวนส์และเพียร์ซระบุว่าพวกตนถูกจัดอยู่ในฐานข้อมูลบุคคลและองค์กรอันตราย (Dangerous Individuals and Organizations)
ทั้ง 2 คนอ้างในคำฟ้องว่าเมื่อ เลียวนิด แรดวินสกี (Leonid Ravinsky) ผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าคุม Onlyfans ในช่วงต้นปี 2019 พวกเธอและผู้ผลิตเนื้อหาผู้ใหญ่หลายหมื่นคนก็ทยอยถูกแบนอย่างลับ ๆ บน Instagram, Facebook, YouTube และ Twitter ทำให้บัญชีและโพสต์จำนวนมากถูกลบ
อย่างไรก็ดี ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Meta และ OnlyFans ยื่นฟ้องกลับและปฏิเสธข้อกล่าวหาของเอแวนส์และเพียร์ซ แต่ไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ที่มา futurism
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส