Motorola ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ Edge นั่นคือ Edge (2022) ที่ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลาง เน้นไปที่ประสบการณ์การทำงานแบบรุ่นเรือธงในรูปสเปกที่ลดหลั่นลงไป
หนึ่งสิ่งที่ Motorola Edge (2022) ได้ยกระดับขึ้น คือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งชิปเซต MediaTek Dimensity 1050 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร โดยมาพร้อมแกนซีพียู Cortex-A78 ความเร็ว 2.5 GHz จำนว 2 แกน และ Cortex-A55 ความเร็ว 2.0 GHz จำนวน 6 แกน เสริมด้วยชิปกราฟิก Mali-G610 MC3 ซึ่งโดยรวมแล้วนั้นมีศักยภาพมากพอสำหรับสมาร์ตโฟนระดับกลาง และรองรรับความเร็วอินเทอร์เน็ตในระดับสูง ในย่านความถี่ mmWave 5G (เร็วกว่าสมาร์ตโฟนหลายรุ่นที่รองรับ 5G ในย่านความถี่ sub-6GHz เท่านั้น)
ชิปเซตดังกล่าวประมวลผลร่วมกับแรม 8 GB, สตอเรจ 256 GB, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh และติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่แทบจะไม่ได้รับการปรับแต่งใด ๆ)
อีกสิ่งที่น่าสนในคือ หน้าจอ OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล พร้อมด้วยรีเฟรชเาต 144 Hz, รองรับค่าสีระดับ 10 บิต, รองรับ HDR10+ และติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ
สเปกอื่น ๆ ที่น่าสนใจ มีทั้ง
- กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล (หลัก) + 13 ล้านพิกเซล (Ultrawide, มุมกว้าง 120 องศา, ถ่ายภาพ Macro ได้)
- กล้องหลักรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และวิดีโอ Slow-Mo ความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E (2.4, 5 และ 6 GHz), Bluetooth 5.2 และ NFC
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP52
- บอดีขนาด 160.86 x 74.24 x 7.99 มม.
- น้ำหนัก 170 กรัม
- ลำโพงคู่ ระบบเสียง Dolby Atmos
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
Motorola Edge (2022) จะวางจำหน่ายเฉพาะที่สหรัฐฯ โดยทาง Motorola จะเปิดเผยราคาให้ทราบต่อไป
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส