Google ระบุว่าได้หยุดยั้งการโจมตีทางไซเบอร์แบบ DDoS (Distributed Denial of Service) ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำเร็จ
เอมิล ไคเนอร์ (Emil Kiner) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของโครงการ Cloud Armor แห่ง Google และ ซัตยา คอนดูรู (Satya Konduru) หัวหน้าฝ่ายเทคนิค เผยว่าเทคโนโลยีของทีมสามารถหยุดการโจมตี DDoS ที่ความถี่ 46 ล้านครั้งต่อวินาทีได้ ซึ่งการโจมตีที่เกิดขึ้นเกิดจาก IP ถึง 5,256 แห่ง จาก 132 ประเทศ
“ถ้าจะให้เห็นภาพขนาดการโจมตีที่ชัดมากขึ้น ก็เท่ากับความถี่ของคำขอเข้าเว็บไซต์ Wikipedia รายวัน ภายใน 10 วินาทีเท่านั้น” Google ระบุ
ทั้งนี้ การโจมตีข้างต้นถึงจุดสูงสุดภายใน 10 นาที และดำรงอยู่ถึง 69 นาที โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการโจมตีหยุดลง เพราะผู้ก่อเหตุเห็นแล้วว่าการโจมตีไปเป็นไปอย่างที่หวัง
Google ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการโจมตีโดยใช้ซอฟต์แวร์ Botnet ที่ชื่อว่า Mēris จากการวิเคราะห์แหล่งการโจมตีเชิงภูมิศาสตร์และรูปแบบที่ใช้การโจมตี
สำหรับการโจมตี DDoS คือความพยายามในการทำให้เซิร์ฟเวอร์หรือเครือข่ายขัดข้องด้วยการใช้การจราจรทางไซเบอร์หรือคำขอ (request) เข้าชมแบบมหาศาล โดยการโจมตีที่มีความถี่สูงมักจะใช้ Botnet (Robot Network) ซึ่งก็คือ อุปกรณ์ IoT จำนวนมหาศาลที่แฮกมาได้เป็นเครื่องมือในการโจมตี
ที่มา TechRadar
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส