หลังจากที่ทางแบไต๋ ได้พรีวิวตัวเครื่อง vivo V25 5G สมาร์ตโฟนรุ่นกลางรุ่นใหม่จากทางวีโว่ (vivo) กันไป ทางวีโว่ก็ได้จัดงานเปิดตัว vivo V25 Series 5G สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล V Series อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว โดยออกมาทั้ง vivo V25 5G และ vivo V25 Pro 5G เลย !
vivo V25 Pro 5G
vivo V25 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นท็อปในซีรีส์นี้ ซึ่งได้มีการออกแบบในส่วนตัวกล้องใหม่หมด โดยเน้นความมินิมอล และเรียงให้สม่ำเสมอมากขึ้น ส่วนฝาหลังก็มาพร้อมฟีเจอร์ Color Changing Glass ที่สีของฝาหลังจะทำปฏิกิริยากับแสงแดด หรือแหล่งกำเนิดรังสี UV อื่น ๆ ที่จะเปลี่ยนสีได้ภายในเครื่องเดียว รวมถึงยังได้ใช้ Fluorite AG Glass ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลาสัมผัส
สเปกภายในของ vivo V25 Pro 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ HDR 10+ ความละเอียด 2,376×1,080 (FHD+)
- ชิปเซต Mediatek Dimensity 1300 Octa-core รองรับ 5G
- แรมขนาด 12 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (f/1.89) + กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.45) ที่มีออโต้โฟกัสที่ตา
- แบตเตอรี่ขนาด 4,830 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 66W FlashCharge
- ลำโพงเดี่ยวบริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 190 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นกระจกขัดด้าน Fluorite AG Glass ที่เปลี่ยนสีได้ มาใน 2 สี : สีฟ้า Surfing Blue และสีดำ Starlight Black
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านในของหน้าจอ (Optical Fingerprint Scanner)
- ซอฟต์แวร์ Funtouch OS 12 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 19,999 บาท (2 หมื่นมีทอน !)
vivo V25 Pro 5G จะเปิดให้จองได้ ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนนี้เป็นต้นไป โดยทางแบไต๋ กำลังจะมีรีวิวให้ทุกคนได้ชมกันด้วย ติดตามรอชมได้เลย !
vivo V25 5G
Vivo V25 เป็นรุ่นมาตรฐานในซีรีส์นี้ โดยเด่นที่กล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมามากถึง 50 ล้านพิกเซล รวมถึงได้มีการออกแบบบริเวณกล้องหลังใหม่ทั้งหมดเช่นเดียวกัน ส่วนฝาหลังก็มาพร้อมฟีเจอร์ Color Changing Glass ที่สีของฝาหลังจะทำปฏิกิริยากับแสงแดด หรือแหล่งกำเนิดรังสี UV อื่น ๆ ที่จะเปลี่ยนสีได้ภายในเครื่องเดียว เช่นเดียวกับรุ่น pro
สเปกภายในของ vivo V25 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว รีเฟรชเรต 90Hz รองรับ HDR 10+ ความละเอียด 2,404×1,080 (FHD+)
- ชิปเซต Mediatek Dimensity 900 Octa-core รองรับ 5G
- แรมขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 128 หรือ 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (f/1.79) + กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 50 ล้านพิกเซล (f/2.2) ที่มีออโต้โฟกัสที่ตา
- แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 44W FlashCharge
- ลำโพงเดี่ยวบริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง
- น้ำหนัก 186 กรัม วัสดุฝาหลังเป็นกระจกขัดด้านที่เปลี่ยนสีได้ (Color Changing Glass) มาใน 2 สี : สีทองซันไรส์ Sunrise Gold และสีดำ Diamond Black
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านในของหน้าจอ (Optical Fingerprint Scanner)
- ซอฟต์แวร์ Funtouch OS 12 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 8/128 GB : 13,999 บาท, 8/256GB : 14,999 บาท
นอกจากนั้น ทางวีโว่เตรียมวางจำหน่าย vivo V25 Series 5G รุ่นพิเศษที่ได้ร่วมมือกับ CARNIVAL แบรนด์สตรีตแฟชั่นของไทย (ที่ได้เป็นผู้จัดจำหน่าย Nothing Phone 1 ในรอบพิเศษ) ในการออกคอลเล็กชันพิเศษนี้ ไม่ว่าจะเป็น กล่องรองเท้าสนีกเกอร์, กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ, กระเป๋าใส่โทรศัพท์มือถือ และพวงกุญแจลาย CARNIVAL พิเศษเพียง 100 เซตเท่านั้น ในส่วนนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ vivo Thailand ได้เลย
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง วีโว่ได้เปิดตัวทั้ง vivo V25 5G และ vivo V25 Pro 5G มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้มีการประกาศราคาในรุ่น vivo V25 มาก่อน
vivo TWS Air
vivo TWS Air เป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS ที่เปิดตัวพร้อมกันในงานนี้ มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบาเพียง 3.5 กรัมเท่านั้น แถมยังมีไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 14.2 mm, เทคโนโลยี DeepX 2.0 สร้างคุณภาพเสียงสมจริง, ระบบตัดเสียงรบกวนสูงถึง 45% , ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ AI Dual-Mic และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 4.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และวางจำหน่ายในประเทศในราคา 1,999 บาท อีกด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส