ออปโป้ (OPPO) ประเทศไทย ได้เปิดราคาไทยแท็บเล็ตรุ่นแรกของออปโป้ OPPO Pad Air ที่ถือเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัด ในราคาต่ำหมื่น กับสโลแกน ‘ดีไซน์บาง โฉบเฉี่ยว สนุกได้ไม่จำกัด’ พร้อมกับหูฟัง OPPO Enco Air2 Pro หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดที่แม้จะตัวเล็ก แต่ก็ไดรเวอร์ใหญ่ มีระบบตัดเสียงรบกวน ดีไซน์ดี ในราคาที่ไม่แรง
OPPO Pad Air
OPPO Pad Air คือแท็บเล็ตรุ่นแรกของทางออปโป้ที่ออกมาเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัด โดยได้มีการออกแบบส่วนบนของฝาหลังแบบ Sunset Dune ที่ให้ความรู้สึกเหมือนแถบเนินทรายตอนพระอาทิตย์ตก และยังได้ใช้เทคโนโลยี OPPO Glow ในการเคลือบ 5 ชั้น และ 3D Finishing ทำให้ได้สีเทาที่มีเลเยอร์
ส่วนด้านหน้าก็มีขอบจอที่กว้างเพียง 8 มม. เท่ากันทั้ง 4 ด้าน และตัวเครื่องก็มีความบางเพียงแค่ 6.94 มม. และหนัก 440 กรัมเท่านั้น แถมยังรองรับปากกา ‘OPPO Life Smart Stylus Pen’ (วางจำหน่ายแยก ราคา 1,999 บาท) เพื่อให้สามารถทำงาน Productivity หรือกระทั่งวาดรูปได้อีกด้วย
สเปกตัวเครื่องของ OPPO Pad Air
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 10.36 นิ้ว รีเฟรชเรต 60Hz ความละเอียด 2,000×1,200 (2K)
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core
- แรม LPDDR4X ขนาด 4 GB
- หน่วยความจำขนาด 64 GB
- กล้องหลัง 1 ตัว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- กล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- แบตเตอรี่ขนาด 7,100 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 18W (Power Delivery)
- ลำโพงสเตอริโอรอบตัวเครื่อง 4 ตัว (รองรับระบบ Dolby Atmos)
- น้ำหนัก 440 กรัม
- ซอฟต์แวร์ ColorOS 12.1 (Based on Android 12)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 9,999 บาท
OPPO Enco Air2 Pro
OPPO Enco Air2 Pro เป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS ที่ได้รับการอัปเกรดเทคโนโลยีจาก OPPO Enco Air2 เพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับ Titanized Diaphram Driver ขนาด 12.4มม., Chamber หลังขนาดใหญ่ที่ OPPO ออกแบบเอง และการปรับแต่งเสียงเฉพาะ Enco Life (เข้าผ่านแอปพลิเคชัน HeyMelody หรือตั้งค่าโดนตรงบนอุปกรณ์ของออปโป้) รวมถึงยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) ที่ตัดเสียงรบกวนในย่านความถี่ต่าง ๆ ได้
โดยดีไซน์ก็มีความโดดเด่น ด้วยฝาครอบด้านบนแบบสะท้อนแสง ที่ใช้รูปทรงเหมือนฟองอากาศ 2 ชั้นและโปร่งใส ส่วนเคสชาร์จก็มีรูปทรงแบบโค้งมนเพรียวบาง และพื้นผิวด้าน ส่วนตัวหูฟังก็มีการออกแบบความโค้งแบบ Smiling Curve Design ตามหลักสรีรศาสตร์ ที่ออปโป้เคลมว่าสามารถใส่สบายตลอดวันอีกด้วย ส่วนแบตเตอรี่ก็สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 28 ชั่วโมง (รวมชาร์จในเคสชาร์จแล้ว) และยังมีระบบ Fast Charging ที่การชาร์จ 10 นาทีสามารถใช้งานได้ 2 ชั่วโมง โดยมาใน 2 สี ได้แก่สีเทา และสีขาว
จากการทดลองฟังของผู้เขียน พบว่าเสียงในย่านเบสนั้นทำได้ค่อนข้างดี แม้ว่าคุณภาพเสียงโดยภาพรวมอาจจะไม่มีด้านไหนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ด้วยราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 2,499 บาทนั้น ถือว่าค่อนข้างสมราคา ด้วยลูกเล่นต่าง ๆ ที่มีให้ในแอปพลิเคชัน HeyMelody ที่สามารถปรับแต่งเสียงได้ตามใจด้วยแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับหูฟังเรือธงของ OPPO อย่าง OPPO Enco X2 เสียงในย่านใสของ OPPO Enco X2 นั้นจะทำได้ดีกว่า แต่ OPPO Enco Air2 Pro สามารถเร่งเบสได้ดีกว่า
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส