JBL เปิดตัวหูฟังระดับเรือธง 2 รุ่นที่การันตีถึงคุณภาพที่ ‘ดีที่สุดตั้งแต่ JBL เคยทำ’ ได้แก่ JBL Tour Pro 2 ซึ่งเป็นหูฟังแบบ TWS และ Tour ONE M2 แบบครอบหู รองรับ Bluetooth 5.3 พลังงานต่ำ และ LC3 เพื่อให้เสียงที่มีคุณภาพและระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน
ทั้ง 2 โมเดลใช้ไดรเวอร์ JBL PRO-tuned ที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะให้เสียงระดับเหนือชั้น ฟีเจอร์ด้วยระบบตัดเสียง (Active Noise Cancellation: ANC) ที่สามารถปรับระดับได้ด้วยปุ่มสไลด์ รวมถึงความอึดของแบตเตอรี่ที่เทียบเคียงกับหูฟังระดับเรือธงของ Sony
ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ระบบเสียงรอบทิศทาง (immersive JBL Spatial Sound) ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ขณะฟังเพลง, ดูหนัง หรือเล่นเกม และยังมีระบบ Personi-fi 2.0 ที่จะช่วยแต่งเติมประสบการณ์การฟังเพลงให้ดีขึ้นไปอีกขั้น ทั้งหมดนี้สามารถเข้าถึงได้จากการใช้แอปหูฟังของ JBL
JBL Tour PRO 2
หูฟัง Tour PRO 2 มาพร้อมนวัตกรรมคือ เคสชาร์จอัจฉริยะ (smart charging case) ที่มีหน้าจอสัมผัส LED ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเล่นเพลง เลือกระดับการตัดเสียง ปรับแต่งหูฟัง หรือแม้แต่จัดการกับข้อความแจ้งเตือนและการโทรก็ทำได้


สมาร์ตเคสของ Tour PRO 2 มีกระทั่งฟีเจอร์จากแอปของ JBL ที่มาในระบบทัชสกรีน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกการตั้งค่าที่ต้องการบนหน้าจอได้ตามความชอบส่วนตัว อีกทั้งยังซิงก์กับสมาร์ตโฟนเพื่อแสดงเวลาและแบตเตอรี่ทั้งของ Tour PRO2 และสมาร์ตเคส ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่านี่คือสิ่งที่ตนเองต้องการด้วยซ้ำ
JBL เคลมว่า การใช้ระบบสัมผัสจากสมาร์ตเคสนั้นรวดเร็วกว่าการใช้แอปถึง 7 เท่า ซึ่ง JBL ก็ได้ออกแบบให้หน้าจอทัชสกรีนของสมาร์ตเคสแสดงผลแบบเรียบง่าย จึงทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งการได้อย่างไม่ยากเย็น
Tour PRO 2 มาพร้อมไดรเวอร์ 10 มม., ดีไซน์ท่อทรงรีที่มาพร้อมจุกหูฟังซิลิโคนหลายไซซ์ และมีไมค์ 6 เพื่อเสียงพูดที่ชัดใสขณะคุยโทรศัพท์ โดยตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นาน 10 ชม. รวมกับเคสอีก 30 ชม. เป็น 40 ชม. (เมื่อปิดระบบตัดเสียง)
ราคาของ JBL Tour PRO 2 อยู่ที่ €249 หรือประมาณ 9,000 บาท โดยมีสีดำและสีแชมเปญให้เลือก และจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนมกราคมปี 2023

JBL Tour ONE M2
JBL Tour ONE M2 เป็นหูฟังไร้สายแบบ over-ear มีระบบ hybrid True Adaptive ANC สามารถปรับระดับการตัดเสียงแบบ real-time ตามระดับเสียงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ใช้ และมาพร้อมไดรเวอร์ 40 มม. เพื่อเอาชนะคู่แข่งแบรนด์อื่น ๆ รวมถึงหูฟังรุ่นก่อน ๆ ของ JBL
ทางด้านดีไซน์ของ ONE M2 ก็ถูกพัฒนาให้ดูพรีเมียมมากขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Tour ONE และมีการเปลี่ยนวัสดุสายคาดและที่ครอบหูให้ใส่สบายมากขึ้น


ตัวหูฟังมีน้ำหนัก 268 กรัม สามารถพับเก็บได้ เพื่อความสะดวกในการพกพาและใช้งานขณะเดินทางไปที่ต่าง ๆ โดยรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 50 ชม. เพื่อปิดระบบ ANC แต่จะใช้งานได้นานสุด 30 ชม. หากเปิดใช้งานระบบ ANC และมีไมค์ 4 ตัว
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Tour ONE M2 คือฟีเจอร์ ‘Smart Talk’ ที่ระบบจะจดจำเสียงของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้คำสั่งเสียงเพื่อควบคุมระบบการตัดเสียง ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่บทสนทนาได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก
JBL Tour ONE M2 ตั้งราคาไว้ €299 หรือประมาณ 11,000 บาท โดยมีสีดำและสีแชมเปญเหมือนหูฟังรุ่นเล็ก และวางจำหน่ายในช่วงเดือนมกราคม 2023 เช่นเดียวกัน

ที่มา: WhatHIFI
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส