เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา T-Mobile บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ และ SpaceX บริษัทเทคโนโลยีอวกาศเชิงพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศความร่วมมือกันในการพัฒนาให้สมาร์ตโฟนรองรับการเชื่มอมต่อกับดาวเทียมโดยตรง โดยจะรองรับกับดาวเทียมรุ่นใหม่อย่าง Starlink V2 ที่ SpaceX กำลังจะปล่อยขึ้นสู่อวกาศในเร็ว ๆ นี้
การเชื่อมต่อกับดาวเทียมนี้จะใช้คลื่นความถี่ PCS ซึ่งสามารถรองรับกับสมาร์ตโฟนในปัจจุบันได้
ล่าสุด ฮิโรชิ ล็อกไฮเมอร์ (Hiroshi Lockheimer) รองประธานอาวุโสด้านแพลตฟอร์มและระบบนิเวศของ Google ได้ประกาศบนทวิตเตอร์ว่า Google กำลังสร้างพัฒนาเทคโนโลยีที่จะรอรับการเชื่อมต่อดาวเทียมในระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันถัดไป (หมายถึง Android 14) โดยใช้ฮาร์ดแวร์คลื่นวิทยุที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นแกนหลัก แต่ยังมิได้เปิดเผยชัดเจนว่าจะอัปเดตให้ใช้จริงเมื่อไร และสมาร์ตโฟนระบบ Android 13 จะรองรับการเชื่อมต่อดาวเทียมด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ T-Mobile และ SpaceX นั้น คาดว่าจะร่วมกันทดสอบดาวเทียมรุ่นใหม่ในปลายปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Google จะปล่อยอัปเดต Android 14 ให้แก่สมาร์ตโฟนหลายรุ่น โดยมีเป้าหมายจะเริ่มให้บริการเชื่อมต่อดาวเทียมในสหรัฐฯ ก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นจะขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ความเร็วนั้นจะค่อนข้างน้อย อยู่ที่ 2 – 4 Mbps แต่เพียงพอที่จะส่งข้อความและรูปแบบภาพได้
![T-Mobile SpaceX](https://assets.beartai.com/uploads/2022/09/T-Moblie-SpaceX-1024x525.jpg)
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Google จะถอดฟีเจอร์ Android Beam ที่ใช้มานานหลายปีออกจาก Android 14 โดยสมบูรรณ์ และจะผลักดันฟีเจอร์ Nearby Share ที่ Google พัฒนาขึ้นมาแทน
Android Beam ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเขื่อมโยงการทำงานกับสมาร์ตโฟนระบบ Android เครื่องอื่นผ่าน NFC เพื่อส่งข้อมูลและไฟล์งาน ซึ่ง Google ได้เริ่มใช้ Android Beam มาตั้งแต่ Android 10
![Android Beam](https://assets.beartai.com/uploads/2022/09/Android-Beam.jpg)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส