หลายคนอาจจะทราบดีว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก(Mark Zuckerberg) CEO บริษัท META หรือเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook, Instagram มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโซเชียลมีเดีย แต่จะไม่มีใครเห็นเขาเลื่อนดู Instagram Reels อย่างไร้เหตุผล นั่นเป็นเพราะมาร์กคิดว่าโซเชียลมีเดียนั้นดีที่สุดเมื่อใช้ในการสื่อสาร จากตอนล่าสุดของพอดคาสต์ โจ โรแกน(Joe Rogan Experience) มาร์กกล่าวว่าแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram และ Twitter มีประโยชน์และสร้างความสะดวกสบายต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่เมื่อใช้เชื่อมต่อกับผู้อื่น
มาร์กไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ท้อแท้กับประเด็นการติดโซเชียลมีเดียมากเกินไป มีรายงานการวิจัยระบุว่าการใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลในหมู่ผู้ใช้บางคน แต่ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวด้วยว่านั่นเป็นเรื่องจริงหากผู้คนใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อเลื่อนดูฟีดอย่างเดียวแทนที่จะโต้ตอบกับผู้อื่นแทน
ผลการศึกษาในปี 2019 ที่จัดทำโดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดชี้ว่า การใช้โซเชียลมีเดียเป็นประจำ เช่นการตอบสนองต่อเนื้อหาที่ผู้อื่นแชร์ทุกวัน สะท้อนกับความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคมและสุขภาพจิตโดยรวม แต่อย่างไรก็ตาม หากตรงกันข้ามเมื่อผู้คนพึ่งพาโซเชียลมีเดียมากเกินไป ก็อาจสะท้อนทางอารมณ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ทางสังคมนั้น ๆ ได้
หลายคนมักจะจดจ้องกับแอปโซเชียลมีเดียของตัวเองมากเกินไป ด้วยเหตุกลัวว่าจะพลาดเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ หรือบางคนรู้สึกเหมือนขาดการติดต่อจากเพื่อนเมื่อไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดีย สิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเขา เมสฟิน (Mesfin Awoke Bekalu) หนึ่งในผู้ศึกษาวิจัยเขียนอธิบายในการสัมภาษณ์ว่า นั่นเป็นเหตุผลที่มาร์กอ้างว่าเป้าหมายของเขาสำหรับ Facebook และ metaverse ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะไม่ทำให้ผู้คนใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตมากเกินไป แต่เป็นการทำให้เวลาของทุกคนบนอินเทอร์เน็ตนั้นมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
แน่นอนว่ามาร์กนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเรื่องนี้ โดยนักวิจารณ์ต่างโต้แย้งว่า Facebook และ Instagram นั้น เป็นสิ่งเสพติดและเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่นและเด็ก ทางด้านมาร์กเองได้พยายามโต้กลับข้อโต้แย้งเหล่านั้นด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์แจ้งเตือนเวลาใช้งานบนแอปโซเชียลมีเดียเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้งานมากเกินไป
นอกจากนี้ มาร์กยังกล่าวทิ้งท้ายว่า จะยังคงแสดงโพสต์ที่มีการโต้ตอบมากที่สุด แต่จะไม่นับการกดโกรธเป็นการมีส่วนร่วม โดยให้เหตุผลว่า “แค่ไม่ต้องการที่จะขยายความโกรธ”
ที่มา cnbc
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส