Vivo X Fold+ เปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยมาพร้อมชิปใหม่ ได้แก่ Snapdragon 8+ Gen 1 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวท็อปของ Qualcomm ในเวลานี้ โดยมีการโฆษณาว่า ช่วยประหยัดการใช้พลังงานได้ถึง 30% และมีประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มขึ้นอีก 10%
แบตเตอรี่เองก็มีการพัฒนาเช่นเดียวกัน โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,730 mAh (เดิม 4,600 mAh) สามารถใช้งานได้นานเกือบ 2 ชั่วโมงเมื่อดูวิดีโอต่อเนื่อง
X Fold+ จะรองรับการชาร์จไว 80W (เดิม 66W) ทำให้สามารถชาร์จ 70% ได้ภายใน 18 นาที และใช้เวลา 35 นาทีในการชาร์จเต็ม 100%
สเปกหน้าจอของ X Fold+ ยังคงคล้ายเดิมคือเป็นหน้าจอ Ultra Thin Glass พับได้ขนาด 8 นิ้ว สัดส่วน 4:3.55 และแผง LTPO 1-120 Hz ซึ่งทั้งหน้าจอด้านในและด้านนอกล้วนมาพร้อมเซนเซอร์สแกนนิ้วมืออัลตราโซนิก (Ultrasonic fingerprint readers)
ตัวบานพับของรุ่นนี้สามารถพับได้หลายมุม ไม่ได้จำกัดแค่การปิดสนิทและเปิดจนสุดเหมือนกับ Xiaomi Mix Fold 2
ในด้านของกล้องนั้นจะมีกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, กล้องอัลตราไวด์ (114 องศา) 48 ล้านพิกเซล, กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายภาพบุคคล และอีกตัวเป็นกล้อง 8 ล้านพิกเซล ที่ซูมแบบ optical ได้ 5 เท่า และสามารถซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 60x โดยมาพร้อมระบบกันสั่น OIS
ทางด้านของดีไซน์ยังคงคล้ายกับ Vivo X Fold เพียงแต่มีการเพิ่มสีใหม่คือ สีแดง จากเดิมที่มีสีฟ้าและสีดำ โดยที่ฝาหลังยังคงเป็นวัสดุหนังเทียมเช่นเดิม
ปัจจุบัน Vivo X Fold+ เปิดให้พรีออเดอร์ในประเทศจีนแล้ว และจะเริ่มวางขายในวันที่ 29 กันยายน โดยมีราคา ดังนี้
- 12/256GB: 9,999 หยวน (ราว 53,000 บาท)
- 12/512GB: 10,999 หยวน (ราว 58,000 บาท)
ที่มา: GSMArena