สำนักข่าว South China Morning Post ได้รายงานว่า ประเทศจีนซึ่งเป็นศูนย์กลางซัพปลายเออร์และตลาดสมาร์ตโฟนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีแบรนด์สมาร์ตโฟนที่กำลังรุกตลาดทั่วโลกอย่าง Xiaomi, Huawei Technologies Co, OPPO และ Vivo กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก
ปัญหาดังกล่าวมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ตลาดสมาร์ตโฟนของประเทศจีนเกิดการชะลอตัว และส่งผลต่อเนื่องทำให้สายการผลิต เช่น โรงงาน เป็นต้น ต้องประสบปัญหายอดสั่งผลิตที่ลดลง และแบรนด์สมาร์ตโฟนในประเทศก็ประสบปัญหาการชะลอตัวของยอดจำหน่ายด้วยเช่นกัน
แหล่งข่าวในสายการผลิตสมาร์ตโฟนได้กล่าวว่ากับ South China Morning Post ว่า “ในตอนนี้เราไม่ทราบว่าเราควรผลิตสมาร์ตโฟนเท่าไรในเดือนต่อไปจนกระทั่งยอดสั่งผลิตมาถึงในนาทีสุดท้าย เนื่องจากลูกค้าของเราไม่ทราบว่าจะจำหน่ายสมาร์ตโฟนของตนได้เท่าไรเช่นกัน การคาดการณ์ของพวกเขานั้นยังไม่สามารถเชื่อถือได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปตามนโยบายป้องกัน Covid-19 ในอนาคต”
เขาได้กล่าวต่อเนื่องว่า “ออร์เดอร์สั่งผลิตได้ลดลง 20 – 30% ในปีนี้ โดยลูกค้าของโรงงาน รวมถึงแบรนด์สมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของจีน ที่เคยมองว่ายอดจำหน่ายในปี 2022 จะเป็นไปด้วยดี กลับต้องพังทลายลงด้วยปัญหารัสเซียรุกรานยูเครน และการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา”
จากข้อมูลของสถาบันสารสนเทศและการสื่อสารสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Academy of Information and Communications Technology) ได้ระบุว่า การจำหน่ายสมาร์ตโฟนในประเทศจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2022 ลดลง 23% จากเดิมที่มียอดจำหน่าย 153 ล้านเครื่อง ในช่วงเดียวกันเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับที่ Counterpoint Research ได้คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั่วโลกในปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 1,360 ล้านเครื่อง จากเดิมที่ทำได้ 1,390 ล้านเครื่องเมื่อปี 2021
ปัญหาดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อแบรนด์สมาร์ตโฟนในประเทศจีนที่ได้วางแผนเพิ่มยอดจำหน่ายในปี 2022 โดยหลายแบรดน์ได้ตั้งเป้าไว้ที่สมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมที่มีกำไรสูงเป็นสำคัญด้วย
ทาง Xiaomi ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ตโฟนรายใหญ่ของจีน ได้กล่าวว่ายอดจำหน่ายได้ลดลง 26.2% ในไตรมาสที่ 2 ของปี เช่นเดียวกับ Realme ซึ่งเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่กำลังเติบโตเร็วมาก ได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้ลงมาอยู่ที่ 30% ในขณะที่ยังคงเป้าหมายในต่างประเทศไว้ที่ 50%
Ivan Lam นักวิเคราะห์อาวุโสของ Counterpoint Research ได้กล่าวว่า “หนึ่งในเทรนด์ที่หลายแบรนด์นิยมทำกันมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เมื่อปีทีผ่านมาก็คือ การเน้นผลิตสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่คิดว่าประเทศจะประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักขนาดนี้”
ในส่วนผู้ผลิตอุปกรณ์สำหร้บใช้ในการผลิตสมาร์ตโฟนอย่าง Sunny Optical ซึ่งเป็นผู้ผลิตโมดูลกล้องสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของจีนที่มีลูกค้าอย่าง Apple และ Xiaomi ได้กล่าวว่า ยอดจำหน่ายเลนส์ในช่วงครึ่งแรกของปีได้ลดลง 9.1% เนื่องจากความต้องการในตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกลดลง
ส่วน BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้ประกอบสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของจีน ก็มองว่ารายได้จากการประกอบสมาร์ตโฟนในครึ่งแรกของปี 2022 นี้ จะลดลง 4.78%
Ming Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก TF International Securities ได้รายงานว่า แบรนด์สมาร์ตโฟนระบบ Android ของจีน ได้ลดยอดสั่งผลิตลงไป 270 ล้านเครื่อง ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2022 พร้อมทั้งได้คาดการณ์ว่า MediaTek จะลดยอดสั่งผลิตชิป 5G ระดับกลางและระดับกลางลงไป 30 – 35% ในไตรมาสที่ 4 และ Qualcomm จะลดยอดสั่งผลิตชิประดับไฮเอนด์ลง 10 – 15% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 แม้ว่าปกติแล้วจะเป็นช่วงพีคของบริษัทก็ตาม
ผลกระทบจาก Covid-19 ยังส่งผลทำให้รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อให้ประเทศปลอดจาก Covid-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนอย่างชัดเจน โดย GDP ของประเทศได้เติบโตช้าที่สุด อยู่ที่ 0.4% เมื่อไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเติบโตข้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ที่จีนประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยจนทำให้ GDP ในตอนนั้นอยู่ที่ 6.8%
ปัญหาการหยุดชะงักจาก Covid-19 อาจส่งผลกระทบต่อประเทศจีนในระยะยาวต่อไป เนื่องจากซัพปลายเออร์และผู้ผลิตได้เริ่มขยายการผลิตไปในต่างประเทศบ้างแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Apple ที่ย้ายการผลิต iPad จากจีนไปยังเวียดนาม เนื่องจากการล็อกดาว์นครเซี่ยงไฮ้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 เมื่อเดือนมิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา และได้เพิ่ม iPhone ในประเทศอินเดียขึ้นอีก 50% รวมถึงผลิต iPhone 13 จำนวนมากที่อินเดียด้วย