มูลค่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Alibaba Group และ Tencent รวมถึงผู้ผลิตชิปรายใหญ่ต่างร่วงกราวกันเป็นแถว หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเพิ่มมาตรการควบคุมส่งออกไปยังจีน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าด้านเทคโนโลยีไปยังจีน โดยเฉพาะการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการส่งออกของสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่ช่วงปี 1990 เป็นต้นมา
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อกันว่ามาตรการที่ว่านี้จะชะลอความสามารถในการผลิตชิปด้วยตนเองของจีน รวมถึงการวิจัยและพัฒนาด้านอาวุธ ปัญญาประดิษฐ์ และศูนย์ข้อมูล ซึ่งต่างก็ต้องใช้ชิปทั้งหมด ผู้ที่จะได้รับผลกระทบเป็นลำดับแรก ๆ คือผู้ผลิตชิปของจีน
มาตรการที่เพิ่งออกมานี้บังคับให้บริษัทในสหรัฐฯ จะต้องขอใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ หากต้องการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิป logic ที่มีขนาดต่ำกว่า 16 นาโนเมตร (nm) ชิป DRAM ขนาดต่ำกว่า 18 นาโนเมตร และชิป NAND ที่มีหน่วยความจำมากกว่า 28 เลเยอร์ขึ้นไป ให้กับผู้ผลิตชิปในจีน
ปัจจุบัน ชิปจีนมีส่วนแบ่งการตลาดโลกเพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่สำหรับในจีน บริษัทผู้ผลิตชิปประเภทหน่วยความจำอย่าง Yangtze Memory Technologies Co Ltd (YMTC) และ Changxin Memory Technologies (CXMT) ครองตลาดภายในประเทศถึง 7 ใน 10
ผู้เขี่ยวชาญเชื่อว่ามาตรการของสหรัฐฯ จะหยุดยั้งความสามารถในการก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและการเติบโตทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชิปในจีน
เหมา หนิง (Mao Ning) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาระบุว่ามาตรการของสหรัฐฯ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริม ‘การเป็นเจ้าทางเทคโนโลยี’ ของสหรัฐฯ
ที่มา Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส