เว็บไซต์ Business Insider ได้รายงานว่า Facebook กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาราคาหุ้นตกต่ำ, การการเติบโตที่ชะลอตัวลง และการถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าที่จำเป็น โดยมีรายงานว่าพนักงานของ Facebook นั้น ได้รับการเตือนจากผู้จัดการว่าแค่มีผลงานดีอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากการถูกเลิกจ้างในอนาคต

Facebook ได้เริ่มต้นปี 2022 นี้ ด้วยการทุ่มงบลงทุนเพื่อสร้าง Metaverse อย่างมหาศาล แต่ด้วยความที่หุ้นของบริษัทนั้นร่วงหล่นลงถึง 60% ก็ทำให้นักลงทุนเริ่มมองมาที่ปัญหาว่าบริษัทอาจใช้จ่ายในการจ้างพนักงานและลงทุนในส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรมากเกินไป ในขณะที่ธุรกิจหลักของบริษัทนั้นมีการเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่อง

นั่นทำให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Faceboook เข้ามาจัดการปัญหานี้ ซึ่งดูเหมือนจะสร้างความตึงเครียดให้แก่พนักงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากทีมงานและผู้จัดการหลายคนได้ถูกย้ายไปทำงานแผนกต่าง ๆ และบางคนก็ถูกบังคับในลาออกในการปรับโครงสร้างบริษัทในครั้งนี้

office worker

พนักงานคนหนึ่งได้กล่าวกับ Business Insider ว่า “ซักเคอร์เบิร์กแสดงความต้องการออกมาชัดเจนว่า คุณมีเวลาพิสูจน์คุณค่าของตัวเองอีก 3 เดือน ต้องทำงานให้เต็มที่ขึ้นอีก 200% หรือคุณอาจลาออกไปตอนนี้เลยก็ได้ถ้ารับมันไม่ได้”

พนักงานคนนี้ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าพวกเขาจะได้รับกระแสตอบรับในแง่บวกจากการทำงาน แต่ผู้จัดการ (ที่ถูกเปลี่ยนและโยกย้ายภายในบริษัท) ได้กล่าวชัดเจนว่า การทำงานได้ในศักยภาพสูงนั้นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปลอดภัย

พนักงานอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “เขาบอกว่ากำลังเตรียมแผนสำรอง และเราก็ควรทำเหมือนกัน”

พนักงานอีกคนหนึ่งก็ได้กล่าวว่า “ปีหน้าเราอาจจะมีพนักงานน้อยลง 20% ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร”

ทั้งนี้ โฆษกของ Facebook ได้ออกมาปฏิเสธต่อรายงานดังกล่าว โดยระบุเกี่ยวกับความคิดเห็นของซักเคอร์เบิร์กในระหว่างการเรียกประชุมรายได้ประจำไตรมาสที่ 2 ผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งซักเคอร์เบิร์กกล่าวแต่เพียงว่า “ต้องการลดการจ้างงาน, ลดขนาดทีมงานบางทีม และคาดหวังว่าบริษัทจะทำงานได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง” เท่านั้น

office worker

ทางด้านฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทีมงานของเรากำลังพัฒนาแผนสำหรับปี 2023 และเราจะแจ้งข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้”

พนักงานคนหนึ่งได้กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของพนักงานเป็นอย่างมาก โดยมีพนักงานที่ถูกเสนอให้ลาออกโดยสมัครใจเพิ่มมากขึ้น และความพยายามเจรจาเรื่องเงินชดเชย ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับเงินชดเชยเพียงแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น”

พนักงานคนนี้ได้กล่าวว่า “เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงนี้คือสร้างความตึงเครียดให้แก่จิตใจของพนักงานจนต้องลาออกโดยไม่ได้รับเงินชดเชย กล่าวคือเป็นการลดแรงงานลงโดยไม่ต้องปลดพนักงานนั่นเอง”

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส