รัฐบาลสหรัฐอเมริการะบุว่าการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกประเทศทั่วโลก

เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของสหรัฐฯ ชี้ว่าการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่มีความซับซ้อนและรวดเร็วมากขึ้นทุกวัน เร็วกว่าความสามารถในการยับยั้งและป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ของรัฐบาลทั่วโลก โดยยกตัวอย่างการโจมตีโรงพยาบาลผ่านระบบบริการสุขภาพแห่งชาติไอร์แลนด์ (INHS) ไปจนถึงโรงพยาบาลในสหรัฐฯ

สถาบันการศึกษาก็ไม่รอดจากการตกเป็นเป้าโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่ผ่านมามีการโจมตีโรงเรียน และมหาวิทยาลัย จนนักศึกษาไม่สามารถเรียนออนไลน์ในช่วงโควิดได้ โดยมีการยกตัวอย่างการโจมตีเขตการศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นเขตการศึกษาใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในสหรัฐฯ

สหรัฐฯ ย้ำว่าการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่เป็นปัญหาที่ไร้พรมแดน การป้องกันภัยมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละประเทศต้องช่วยกันทำให้การโจมตีทำได้ยากขึ้น ใช้เงินมากขึ้น และเสี่ยงมากขึ้น

เจ้าหน้าที้รายนี้ยังชี้ว่าสาเหตุสำคัญที่มัลแวร์เรียกค่าไถ่มีมากขึ้นว่ามาจากการที่อาชญากรสามารถเคลื่อนย้ายเงินไปมาได้สะดวกผ่านการใช้คริปโทเคอเรนซีเป็นสื่อหลักในการทำมาหากิน

ที่มา ZDNET

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส