เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนกลางทั้งอดีตและปัจจุบันออกมาเตือนว่าการเพิ่มขึ้นของความเห็นที่สร้างความเกลียดชังและการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับชาวยิวบน Twitter จะเสริมความนิยมและความเป็นเอกภาพของเหล่าผู้มีความคิดรุนแรง

เจ้าหน้าที้เหล่านี้ยังประเมินด้วยว่า Twitter จะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความรุนแรงที่มากขึ้นในช่วงหลายเดือนถัดจากนี้ โดยให้สาเหตุว่าเกิดจากการปล่อยให้มีเนื้อหารุนแรงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนอุดมการณ์นาซีของเหล่าคนมีชื่อเสียง และการกลับมาของ QAnon ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวอุดมการณ์ขวาจัดที่มีสมาชิกมหาศาล

หนึ่งในนั้นคือ เดนเวอร์ ริกเกิลแมน (Denver Riggleman) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกองทัพอากาศที่ผันตัวมาทำงานการเมืองให้กับพรรครีพับลิกัน ริกเกิลแมนระบุว่าการเพิ่มขึ้นของการสร้างความเกลียดชังและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะที่มุ่งเป้าไปยังชาวยิวนั้น นำไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในชีวิตจริง

ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Twitter ประกาศปลดแบนให้กับบัญชีที่ถูกแบนจำนวนมากทันที หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่ง มัสก์ยังได้เข้าไปหารือกับนักเคลื่อนไหวที่มีอุดมการณ์รุนแรงเป็นการส่วนตัวด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้จำนวนมากทดลองทวีตข้อความเหยียดผิวและต่อต้านชาวยิวเพื่อทดสอบนโยบายใหม่ของมัสก์ ที่เรียกตัวเองว่าเป็น ‘นักส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงออกแบบสุดขั้ว’

ยิ่งไปกว่านั้นกลไกการตรวจสอบด้านความปลอดภัยที่เคยมีตั้งแต่ก่อนมัสก์เข้ามา อย่าง ADL ก็แสดงออกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะอยู่หรือไป

ในประกาศฉบับหนึ่งของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (DHS) ชี้ว่าการสนับสนุนความรุนแรงบนโลกออนไลน์และในชีวิตจริงนั้นส่งเสริมซึ่งกันและกัน อย่างการกราดยิงบาร์เกย์แห่งหนึ่งในโคโรลาโดเมื่อไม่นานมานี้ที่เรียกเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย ก่อให้เกิดพฤิตกรรมเลียนแบบ

อีกตัวอย่างที่สำคัญคือการจับกุมชายชาวนิวเจอร์ซีย์เมื่อเดือนที่แล้วจากกรณีเผยแพร่คำแถลงออนไลน์ชี้ชวนให้โจมตีโบสถ์ของชาวยิว ตามมาด้วยการจับกุมชายอีกคนที่ครอบครองอาวุธปืนซึ่งทวีตแผนการกราดยิงโบสถ์ยิว

โจเอล ฟินเกลสไตน์ (Joel Finkelstein) ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรไม่แสวงกำไร Network Contagion Research Institute (NCRI) ออกมาแสดงความวิตกเกี่ยวกับการกลับมาแสดงความคิดเห็นของเหล่าผู้สนับสนุนความรุนแรงเหล่านี้

ฟินเกลสไตน์เน้นไปที่การแสดงความคิดเห็นของ เย (Ye) หรือชื่อเดิมคือ คานเย เวสต์ (Kanye West) นักร้องชื่อดังที่ทวีตเนื้อหาสนับสนุน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) อดีตผู้นำนาซีเยอรมนีที่สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปมากกว่า 6 ล้านคน

ในมุมมองฟินเกลสไตน์ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเย คือการที่เขาทำตัวเป็นเครื่องขยายความคิดของผู้มีแนวคิดส่งเสริมความรุนแรงคนอื่น ๆ โดยเฉพาะต่อชาวยิว ซึ่งแม้ว่าบัญชีของเยจะถูกระงับการใช้งานไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาทวีตก็ส่งไปถึงผู้ติดตามจำนวนมหาศาลเรียบร้อยแล้ว

ฟินเกลสไตน์ยังบอกอีกว่าแนวคิดเหยียดผิวและต่อต้านชาวยิวต้องการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งความคิดสุดโต่งเหล่านี้สร้างแรงดึงดูดทั้งจากผู้ที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรือแม้แต่ผู้เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ก็ตาม

ที่มา

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส