ในการเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าหลายรายละเอียดจะตรงกับข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ รวมถึงกล้องหลัง 2 ตัวด้วย แต่มันก็ยังสะกดสายตาผู้ชมได้ด้วยความพิเศษของฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าเหลือเกิน
Phil Schiller ได้ขึ้นมาบนเวทีและดำเนินการเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ท่ากลางผู้ชมที่ประทับใจด้วยในกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดของ iPhone ในตอนนี้
Apple iPhone 7: เซ็นเซอร์ใหม่, ภาพสว่างกว่าเดิม
เลนส์ f/1.8 ช่วยให้ความสว่างเพิ่มขึ้น 50% อีกทั้งภาพยังความชัดและสมจริงมากขึ้น และมี OIS ด้วย
iPhone 7 มีเลนส์ f/1.8 ที่กว้างกว่าเดิม (จากเดิม f/2.2) ซึ่งช่วยให้เก็บแสงได้ดีขึ้นกว่าเดิม 50% ประกอบด้วยชิ้นเลนส์จำนวน 6 ชิ้น เพื่อให้ภาพที่ได้มีความคมชัดและเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ในขณะที่รุ่นก่อนมี 5 ชิ้น และด้วยแฟลช LED จำนวน 4 ดวง ช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ส่วน iPhone 6s มีแฟลช LED จำนวน 2 ดวง
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลังของ iPhone 7 Plus (คลิกขยายภาพได้)
กล้องหลัง 2 ตัว ของ Apple iPhone 7 Plus : ปฏิวัติการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน
กล้องหลังตัวที่ 2 เป็นเลนส์ telephoto ขนาด 56 มม.
เลนส Telephoto ตัวที่ 2 ช่วยให้ถ่ายภาพได้ใกล้มากขึ้น ด้วยการกดที่บนแอปถ่ายภาพ 1x และ 2x เลนส์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานรวมกันเพื่อให้ทำการซูมภาพแบบ Optical Zoom ได้โดยไม่ทำให้ภาพเสียคุณภาพ และยังซูมดิจิตอลเพิ่มได้อีก 5x – 10x อีกด้วย
อีกทั้งยังมีระบบประมวลผลภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายมีความลึกมากขึ้น หรือที่เรียกกันว่า Bokeh ด้วยการเลือกโหมด Portrait ในแอปถ่ายภาพ ระบบจะประมวลภาพจากเลนส์ทั้ง 2 ตัวผสานกันทำให้ได้ภาพในลักษณะ “หน้าชัดหลังเบลอ” ในลักษณะเดียวกับกล้อง DSLR ได้
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลังของ iPhone 7 Plus โหมด Portrait (คลิกขยายภาพได้)
ชิป ISP ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ISP (image signal processor) คือชิปที่ผสานความสามารถรวมกับชิปซีพียู A10 ช่วยในการประมวลผลภาพเร็วขึ้น 60% และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 30% เช่น Auto-Exposure, โฟกัส, White Balance, สี, Tone Mapping, ลด Noise และการรวมภาพในกรณีที่จำเป็น
อื่นๆ : กล้องหน้าชัดขึ้น, Live Photo เสถียรขึ้น และ RAW
- กล้องหน้าได้รับการอัปเกรดเป็น 7 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเทคโนโลยี Deep Trench Isolation ที่ทำให้ภาพและสีคมชัดยิ่งกว่าเดิม มี Retina Flash ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี รวมถึงบันทึกวิดีโอ Full HD
- ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพของ Live Photo ให้มีความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม
- กล้องหลังยังถ่ายภาพแบบ RAW เพื่อใช้สำหรับเพิ่มแสงและรายละเอียดของภาพได้ในแบบที่ JPEG ทำไม่ได้
เปรียบเทียบกล้อง iPhone รุ่นต่างๆ
ที่มา : phonearena