ในปี 2018 หลังจาก Huawei เห็นท่าไม่ดีจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน บริษัทก็ได้ประกาศพัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่ เป็นระบบที่ 3 ขึ้นมาในชื่อว่า HongMengOS หรือ HarmonyOS และก็เป็นไปตามที่ Huawei คาดการณ์ไว้ Huawei และ ZTE ถูกขึ้นบัญชีดำของสหรัฐอเมริกาทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้
แม้ว่าในสมัย โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จะปลดรายชื่อ ZTE ออกจากบัญชีดำแล้วก็ตาม แต่ Huawei ยังคงอยู่ในบัญชีดำต่อไป ในปี 2019, Huawei ก็ได้ประกาศเปิดตัว HarmonyOS ออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งบริษัทบอกว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการที่ 3 ของโลก นอกเหนือจาก iOS และ Android (แต่ตัวแกนยังเป็น AOSP)
ปัจจุบัน HarmonyOS รันบนอุปกรณ์มากถึง 320 ล้านเครื่อง เป็นระบบปฏิบัติการอันดับ 3 รองจาก Android และ iOS โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 113% นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ของบริษัทอื่น ๆ ที่ติดตั้ง HarmonyOS เช่น หลอดไฟ ทีวี ไมโครเวฟ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ กว่า 250 ล้านชิ้น อัตราการเติบโตอยู่ที่ 212%
Store ของ Huawei อย่าง AppGallery ก็เติบโตเร็วเช่นเดียวกัน ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองมาจาก Google Play Store และ App Store แต่ตัวเลือกแอปนั้นถือว่ายังไม่เยอะมาก อยู่ที่ 220,000 แอป แต่ Play Store มีมากถึง 2 ล้านแอป ถึงอย่างนั้น AppGallery ก็มีผู้ใช้งานมากถึง 580 ล้านคนต่อเดือน
ปัญหาหลัก ๆ ตอนนี้ของ Huawei ในธุรกิจสมาร์ตโฟนคือเรื่องชิป ซึ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าการไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Services ได้ อย่างที่เราเห็นกันว่าสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei จะมีแต่รุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon หลังจากมีข่าวว่าชิป Kirin ได้หมดสต็อกไปแล้ว การใช้ชิป Snapdragon แม้ว่าจะเป็นรุ่นเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ก็จะรองรับเพียง 4G เท่านั้น ไม่รองรับ 5G เนื่องจากข้อจำกัดของสหรัฐอเมริกา
ในแง่ของเทคโนโลยี สหรัฐฯ ไม่ได้แบนแค่การเข้าถึงเทคโนโลยีชิปเท่านั้น แต่ยังแบนการส่งออกเครื่อง EUV ด้วย อย่าง SMIC โรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนไม่สามารถใช้เครื่อง EUV ได้เนื่องจากโดนสหรัฐฯ แบนเอาไว้ แต่มีรายงานจาก MyDriver เผยว่า Huawei ได้จดสิทธิบัตรเครื่อง EUV ใหม่ ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนประกอบไปจนถึงกระบวนการผลิต
ทั้งนี้ DigiTimes Asia ระบุว่าตอนนี้ Huawei ยังไม่ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรเครื่อง EUV ดังกล่าวครับ
ที่มา PhoneArena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส