Windows 10 นั้นเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 และใช้วิธีอัปเดตตัว Windows นี้มาโดยตลอด ซึ่งเคยพูดไว้ว่าจะไม่ออก Windows เวอร์ชันใหม่กว่านี้อีกแล้ว (และ Windows 11 มาได้ไง เราจะไขความสงสัยท้ายข่าวครับ) ในที่สุด Windows 10 ก็ต้องเตรียมยุติการขายแล้ว
ในวันที่ 31 มกราคม 2023 Microsoft จะหยุดขายใบอนุญาตการใช้ Windows 10 แบบดิจิทัล (Digital License) บนเว็บไซต์ของ Microsoft แล้ว ดังนั้นใครต้องการซื้อ ให้รีบซื้อได้แล้ว ซึ่งในรูปแบบนี้เป็นการซื้อโดยไม่มีกล่องบรรจุภัณฑ์เหมือนรูปแบบ FPP (Full product package) แต่ยังคงความสามารถของ Windows 10 แบบ FPP ทุกประการ
ซึ่งได้แจ้งอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เช่นในลิงก์นี้
อย่างไรก็ตามการซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย รวมถึงแบบ FPP ในรูปแบบกล่อง และการซื้อพร้อมเครื่องในแบบ OEM ยังคงมีจำหน่ายต่อไปจนกว่าจะหมดสต็อก และในเวอร์ชัน Enterprise สำหรับองค์กรก็ยังคงจำหน่ายต่อไป
โดย Microsoft ยังคงยืนยันตามเดิม สนับสนุน Windows 10 ทุกเวอร์ชันด้วยการอัปเดตความปลอดภัยที่ช่วยปกป้องพีซีของคุณจากไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์ และอื่นๆ จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ยกเว้นในเวอร์ชัน Enterprise แบบ LTSB/LTSC สำหรับองค์กร
- Windows 10 Enterprise LTSB 2016 สนับสนุนจนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2026
- Windows 10 Enterprise LTSC 2019 สนับสนุนจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2029
- Windows 10 Enterprise LTSC 2021 สนับสนุนจนถึงวันที่ 12 มกราคม 2027 (ปรับวงจรอายุให้สั้นกว่า LTSC 2019)
- Windows 10 IoT Enterprise LTSB 2016 สนับสนุนจนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2026
- Windows 10 IoT Enterprise LTSC 2019 สนับสนุนจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2029
- Windows 10 IoT Enterprise LTSC 2021 สนับสนุนจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2032
ซึ่งในปัจจุบันทาง Microsoft ได้แนะนำให้อัปเกรดไปสู่ Windows 11 เนื่องจากจะได้รับการสนับสนุนต่อไปอีกยาวนาน และถึงแม้ว่า Microsoft จะยุติให้อัปเกรดฟรีไปแล้วหลังวันที่ 5 ตุลาคม 2022 แต่เรายังพบว่าปัจจุบันผู้ใช้ที่มีคีย์ Windows 7/8/8.1/10 แบบ FPP และ OEM ยังคงอัปเกรดได้ฟรี (นับจาก ตุลาคม 2023 ไม่สามารถอัปได้ฟรีแล้ว ยกเว้นคีย์ที่เคยอัปเป็น Windows 11 มาก่อนช่วงดังกล่าว ก็ยังคงสามารถลงใหม่ได้ฟรีตลอดไป ส่วนคนที่อัปสู่ Windows 10 ฟรีก่อนหมดเขตไปแล้วก็ยังคงสามารถอัปเป็น Windows 11 ต่อได้อยู่) แม้ไม่เคยจองสิทธิ์ไว้ก่อน ซึ่งเราก็ยังไม่ทราบว่าจะอัปเกรดฟรีจริง ๆ ได้ถึงเมื่อไหร่ แต่ใครที่เคยทำไปแล้ว จะได้รับสิทธิ์นี้ไปตลอด ลงใหม่ซ้ำได้เรื่อย ๆ เลยครับ
ซึ่งการอัปเกรดไปยัง Windows 11 หากเครื่องคุณไม่สามารถอัปเกรดได้เนื่องจากข้อจำกัดของสเปกเครื่อง เรายังอยากให้ลองติดตั้งแบบ Bypass ครับ หากเครื่องคุณไม่ได้เก่ามากแบบเก่าเกินไป ส่วนมากยังติดตั้งได้ เอา Driver เดิมมาใช้ได้เลย และที่สำคัญยังอัปเดตความปลอดภัยได้ ซึ่งไม่ได้แบนการอัปเดตแบบที่ Microsoft เคยขู่แต่อย่างไร (เพราะภายหลัง Microsoft ก็เขียนวิธีลงแบบ Bypass ลงในหน้าเว็บความรู้ของตัวเองด้วย)
ไหนบอกว่า Windows 10 คือ Windows ตัวสุดท้าย?
จริง ๆ แล้ว Windows 11 ใส้ในและการนับเวอรชันถึงแกนกลาง มันก็ยังคือ Windows 10 นี่แหละครับ จะนับว่ามันคืออัปเดตนึงของ Windows 10 (ที่ปกติเปิดให้อัปเดตเรื่อย ๆ ทุกปีอยู่แล้ว) ก็ได้ แค่พอมีการยกเครื่องใหม่หมดยันหน้าตา ก็ถือโอกาสรีแบรนด์ใหม่เป็น Windows 11 เลยครับ
ที่มา: PCGamer
พิสูจน์อักษร : สุขยา เกษจำรัส