เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยแล้วสำหรับ OnePlus 11 5G มาพร้อมกับสโลแกน “The Shape of Power” ในรุ่นนี้จะมากับชิป Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ตัวแรงของค่าย และแรมสูงสุดถึง 16GB ที่มีเทคโนโลยี RAM-Vita สามารถเปิดแอปพลิเคชันได้สูงสุดถึง 44 แอป กล้องเลนส์หลักที่ร่วมมือกับ Hasselblad ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่ถ่ายออกมาได้สีสวยสมจริง เหมือนถ่ายจากกล้องตัวละ 5 แสน แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SUPERVOOC 100W สามารถชาร์จจากแบตเตอรี่ 1 – 100% ภายใน 25 นาที นอกจากนี้ OnePlus 11 5G ยังสามารถอัพเดทระบบปฏิบัติการ OxygenOS ได้ถึง 4 เวอร์ชัน และอัพเดทระบบความปลอดภัยให้ถึง 5 ปี
จอภาพ
ในด้านของจอภาพนั้น มาพร้อมกับหน้าจอโค้ง Super Fluid AMOLED LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรต 120Hz ที่สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของคอนเทนต์ รองรับ HDR 10+ และ Dolby Vision พร้อมเทคโนโลยี RAY-Tracing ทำให้สามารถสัมผัสเอฟเฟกต์เงา การสะท้อน การหักเหของแสงต่าง ๆ สมจริงมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยการถนอมสายตาที่ได้รับการรับรองจาก SGS Low Blue Light EX อีกด้วย
ชิปเซต
ในด้านของชิปเซตจะใช้ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่มีความเร็วระดับเรือธง และสามารถใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหลแม้ผ่านไป 48 เดือน ผ่านการรับรองมาตรฐานโดย TÜV SÜD ในระดับ Fluency Rating A และ RAM ขนาด 16GB พร้อมเทคโนโลยี RAM-Vita ที่จะช่วยให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้สูงสุดถึง 44 แอป โดยที่ไม่ปิดตัวแอปลงอัตโนมัติ
กล้องถ่ายภาพ
ครั้งนี้ยังคงร่วมมือด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์กับ Hasselblad แบรนด์กล้องชื่อดังอยู่ ในเลนส์หลักนั้นจะใช้เซนเซอร์ Sony IMX890 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล , เลนส์ถ่ายภาพบุคคลใช้เซนเซอร์ Sony IMX709 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , เลนส์อัลตราไวด์ใช้เซนเซอร์ Sony IMX581 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมี TurboRAW HDR ที่จะช่วยให้ถ่ายภาพได้ไดนามิกที่กว้างขึ้น และความคมชัดระดับ HDR
ตัวเครื่อง
สเปกของ OnePlus 11 5G
- หน้าจอโค้ง Super Fluid AMOLED LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ HDR 10+ , Dolby Vision
- ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 Octa-core รองรับ 5G
- แรมขนาด 12/16GB
- หน่วยความจำขนาด 256/512GB
- กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก (IMX890) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8)
- กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide (IMX581) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- กล้อง Telephoto (IMX709) ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (f/2.0)
- กล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.5)
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh มาพร้อมมาตรฐานการชาร์จไว 100W SUPERVOOC Charging (ชาร์จเต็มภายใน 25 นาที)
- ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างและด้านบนของตัวเครื่อง รองรับ Dolby Atmos
- น้ำหนัก 205 กรัม วัสดุขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม ฝาหลังเป็นกระจก มาใน 2 สี : สีดำ Titan Black และ สีเขียว Eternal Green โดยต่างความจุ จะใช้คนละสีกัน
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Under Display Optical Fingerprint Scanner)
- ซอฟต์แวร์ OxygenOS 13 (Based on Android 13)
- ราคาเริ่มต้น 29,990 บาท (8/128GB) และ 32,990 บาท (16/256GB)
เปิดตัวหูฟัง OnePlus Buds Pro 2
ในงานเดียวกันนี้ OnePlus ยังได้เปิดตัว OnePlus Buds Pro2 ถือเป็นหนึ่งในหูฟัง True Wireless Stereo ตัวแรกที่ใช้ฟังก์ชัน Spatial Audio อันเป็นเอกลักษ์ของ Google ที่พัฒนาขึ้นสําหรับ Android13 ปลดล็อกประสบการณ์ที่ดื่มดํ่าในหลากหลายแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น YouTube หรือ Disney+
OnePlus Buds Pro2 ยังมีอีควอไลเซอร์ EQ ที่ปรับแต่งโดย Hans Zimmer นักแต่งเพลงเจ้าของรางวัลออสการ์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับสมดุลส่วนประกอบความถี่ให้เหมาะกับรสนิยมและสไตล์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ของ Hans ที่ได้รับการตั้งชื่อว่า “Soundscape”
OnePlus ยังได้ร่วมมือกับ Dynaudio ผู้ผลิตลําโพงสัญชาติเดนมาร์ก เพื่อร่วมสร้าง Melody Boost Dual Drivers เทคโนโลยีไดรเวอร์คู่ 11 มม. + 6 มม. ให้ความถี่ต่ำอย่างต่อเนื่องเพื่อเสียงเบสไดนามิกที่ลึกและเต็มอิ่มมากขึ้น และมีฟังก์ชัน Smart Adaptive Noise Cancellation(ANC) ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนได้ถึง 48dB นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 39 ชั่วโมง
OnePlus Buds Pro 2 วางขายในราคา 6,490 บาท โดยวางจำหน่ายในสีดำ Obsidian Black และ สีเขียว Arbor Green
ช่องทางการจัดจำหน่าย OnePlus Experience Zone, AIS, Shopee, Lazada และ OPPO Brand shop รายละเอียดเพิมเติมหรือสนใจสั่งซื้อ :https://www.oneplus.com/th
โปรโมชันสุดพิเศษ เมื่อซื้อ OnePlus 11 5G ผ่านช่องทางใดก็ได้ รับทันที เคส OnePlus 11 5G Sandstone Bumper
มูลค่า 790 บาท พร้อมบัตรประกันจอแตก E-VIP card และรับเพิ่ม OnePlus Buds Pro 2 มูลค่า 6,490 บาท เมื่อไปร่วมงาน Thailand Moblie Expo 2023 จำนวน 200 ท่านแรกเท่านั้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส