กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา (USDT) ชี้ว่าเหล่าอาชญากรทางไซเบอร์ใช้ระบบบริการการเงินกระจายศูนย์ (DeFi) ในการส่งและฟอกเงินผิดกฎหมาย
DeFi เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องใช้ธนาคาร
USDT ชี้ว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้ช่องโหว่ในมาตรการต่อต้านการฟอกเงินและสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) ของทั้งสหรัฐฯ และต่างชาติ รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการก่ออาชญากรรม
นอกจากนี้ ยังชี้ว่าบริการ DeFi ที่ไม่สามารถทำตามมาตรการ AML/CFT ได้นั้นก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างสูงในภาพรวม
ซึ่งปัญหาอีกประการคือการที่ DeFi อาจอยู่นอกเหนือมาตรการ AML/CFT
ในส่วนอื่น ยังพบว่ามีการขาดการบังคับใช้มาตรการ AML/CFT ในระดับระหว่างประเทศ และการขาดมาตรการไซเบอร์ที่เหมาะสม
ในการประเมินของ USDT ยังเน้นไปที่แฮกเกอร์เกาหลีเหนือในฐานะที่เป็นตัวแสดงสำคัญที่ใช้ DeFi ในการเคลื่อนย้ายเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
โดยมีข้อแนะนำให้สหรัฐฯ สร้างความเข้มแข็งให้กับการกำกับดูแลมาตรการ AML/CFT พิจารณาจัดทำแนวทางสำหรับเอกชนในด้าน DeFi และแก้ไขช่องโหว่ในมาตรการต่าง ๆ ด้วย
ไบรอัน เนลสัน (Brian Nelson) รัฐมนตรีช่วย USDT ด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงินชี้ว่าภาคเอกชนควรใช้ผลการศึกษานี้ในการประเมินยุทธศาสตร์ลดความเสี่ยงขององค์กร และดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้อาชญากรใช้ DeFi ในการทำมาหากิน
ที่มา The Hindu
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส