Samsung ได้เปิดเผยผลประกอบการเบื้องต้น (Earnings Guidance) ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ซึ่งปรากฏว่ามีผลกำไรลดลงต่ำสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวระบุว่า ยอดจำหน่ายของ Samsung ในไตรมาสที่ 1 นั้น จะอยู่ระหว่าง 62 – 64 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.60 – 1.66 ล้านล้านบาท) ซึ่งลดลง 10% เมื่อเทียบเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2022 และลดลง 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2022
นอกจากนี้ ผลกำไรสุทธิยังได้เพียง 500,000 – 700,000 ล้านวอน (ประมาณ 12,900 – 18,100 ล้านบาท) ซึ่งลดลงถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2022 และลดลงถึง 95% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2022
Samsung ได้เปิดเผยว่าจะลดการผลิตชิปหน่วยความจำ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความต้องการในตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และนั่นเองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลกำไรของบริษัทอยู่ในระดับย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
นี่เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันแล้วที่ผลกำไรของ Samsung ได้ลดลงอย่างมหาศาล โดยเมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ที่ผ่านมา Samsung มีผลกำไรลดลงเกือบ 70% ซึ่งในตอนนั้นทางบริษัทได้อ้างว่าเป็นผลกระทบจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย แต่ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าเหตุผลสำคัญจะมาจากแผนกชิปหน่วยความจำของ Samsung ที่ดำเนินธุรกิจจนใกล้จะถึงทางตัน และจำเป็นต้องเร่งหารายได้จากแผนกอื่นเพื่อช่วยฟื้นฟูผลกำไรในอนาคตอย่างเร่งด่วน
ที่มา : GSMArena