เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ iPhone 15 Series ที่มาพร้อมกันทั้ง iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น และที่สำคัญมาพร้อมกับ USB Type C แล้ว หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน นอกจากนั้นมีอะไรใหม่บ้าง ไปดูกัน!
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ใหม่มาพร้อมกับ Dynamic Island ที่เคยนำมาใส่ใน iPhone 14 Pro / Pro Max ใช้ขนาดจอ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ยังเป็นจอแบบ OLED Super Retina XDR ความสว่างสูงสุดที่ 2,000 นิต แต่รีเฟรชเรต 60Hz ไม่ได้ ProMotion แบบรุ่นโปร และยังคงใช้ชิป A16 Bionic แถมยังมาพร้อมกับกล้องหลักใหม่ 48MP ที่มีโหมด 2X ระดับ Optical Quality และกล้อง Ultra Wide 12MP ยังคงมีอยู่เป็นตัวเดิม
USB Type C จะใช้เป็นแบบ USB 2.0 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ iPhone หันมาใช้พอร์ตนี้ตาม ๆ มือถือทั่วโลกกันเสียที ปิดตำนานพอร์ต Lightning อายุ 11 ปีอย่างเป็นทางการแล้ว
สีใหม่ของแก๊ง iPhone 15 / 15 Plus มาพร้อมกันทั้งหมด 5 คือสี ดำ, ฟ้า, เขียว, เหลือง, ชมพู ในโทนพาสเทล ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 และ 37,900 บาท ที่ความจุ 128 GB ทั้ง 2 รุ่น
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max มาพร้อมกับบอดี้ใหม่ ใช้วัสดุไทเทเนียมระดับ Grade 5 ที่แข็งแรงทนทาน ซึ่งแอปเปิ้ลเคลมว่าเป็นระดับที่ใช้กันในอุตสาหกรรมอวกาศ และกระจกผิวด้าน และของใหม่ที่มาตามนัดคือปุ่ม Action ที่จะมาใช้แทนสวิตช์สไลด์เปิด/ปิดเสียง สามารถปรับแต่งได้ตามชอบ ตัวจอเป็น Super Retina XDR (OLED) ขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ที่มีขอบบางลงกว่าเดิมนิดหน่อย แต่มี ProMotion หรือรีเฟรชเรตแบบปรับได้สูงสุด 120Hz เท่าเดิม ส่วนในเรื่องของกล้อง iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับระบบซูม Optical แบบใหม่ที่ Apple เรียกว่า ‘Tetraprism’ ได้ระยะ Optical ที่ 5x และที่ 25x สำหรับการซูมแบบ Digital ส่วน iPhone 15 Pro ยังได้ที่ 3x เหมือนเดิม
ทั้ง iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับชิปใหม่ ‘A17 Pro’ ซึ่งเป็นชิปแบบ 3nm มี CPU 6 Core, Neural Engine แบบ 16-core และ GPU 6 Core ที่ Apple เรียกว่านี่เป็น GPU ระดับ Pro Class มีระบบ Ray Tracing Accelerator ที่ประมวลผลกราฟิกแบบ Ray Tracing ได้ดีกว่าแบบ Software ถึง 4% โดยสิ่งที่ทำเอาช็อกกันพอสมควรคือ Apple บอกว่าเกม AAA อย่าง Resident Evil Village, Resident Evil 4 Remake, Death Stranding และ Assassin’s Creed Mirage จะมาลงให้กับเครื่อง iPhone แบบ Native กันด้วย!
และแน่นอนว่าไม่พลาดหลังจากเกือบจะงัดข้อกับ EU มานาน กับพอร์ต USB Type C แบบ USB 3.0 (ที่ความเร็ว 10 Gb/s) ที่สามารถถ่ายโอนความเร็วได้สูงสุด 20 เท่า
iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max มาพร้อมกันทั้งหมด 4 สี ธรรมชาติ (เงิน), น้ำเงิน, ขาว และดำ โดยที่ iPhone 15 Pro วางจำหน่ายเริ่มต้นด้วยความจุ 128GB ในราคาเริ่มต้น 41,900 บาท และ iPhone 15 Pro Max เริ่มต้นที่ 256GB ในราคาเริ่มต้น 48,900 บาท (ซึ่งถือว่าเท่าเดิมจากตอน iPhone 14 Pro Max เพียงแค่เลิกผลิตรุ่นความจุ 128GB เท่านั้น)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส