Apple สร้างการเปลี่ยนแปลงพอร์ตของ iPhone ครั้งใหญ่ เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ใน iPhone 15 ซีรีส์หลังจากใช้พอร์ต Lightning มานับ 10 ปี สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากสหภาพยุโรปไม่ออกกฏที่บังคับให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แทน
แม้ว่า iPhone 15 และ iPhone 15 Pro จะใช้พอร์ต USB-C เหมือนกัน แต่ก็มีการกั๊กสเปกโดย iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะได้พอร์ต USB-C ที่ความเร็วระดับ USB 2 หรือ 480Mbps เท่ากับพอร์ต Lightning ของ iPhone รุ่นเก่า แต่สำหรับ iPhone 15 Pro จะได้พอร์ต USB-C ที่ความเร็วระดับ USB 3 โอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 10Gbps
อย่างไรก็ตาม สาย USB-C แบบถักที่แถมมาใน iPhone 15 และ iPhone 15 Pro เป็นสาย USB-C ที่ความเร็วระดับ USB 2 นั่นหมายความว่าหากใครต้องการใช้งานพอร์ต USB-C ของ iPhone 15 Pro อย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้องซื้อสายใหม่นะครับ ใช้สายที่ติดกล่องมาจะได้ความเร็วระดับ USB 2 อยู่ดี
เอ้อ แบบนี้ก็ได้ กั๊กกันจนหยดสุดท้ายจริง ๆ หากใครอยากได้ความเร็วเต็ม ๆ จากแอปเปิ้ลก็จะมีสาย Thunderbolt ขายแยกในราคา 2,490 บาทครับ ซึ่งก็เกินสเปกไปมากอยู่ เพราะแอปเปิ้ลไม่มีสาย USB-C ความเร็ว 10 Gbps ขาย ถ้าต้องการก็ต้องหาจากแบรนด์อื่นเลย
แต่ Apple เป็นค่ายเดียวหรือไม่ ที่ทำแบบนี้? จริง ๆ แล้วผู้ผลิตสมาร์ตโฟน Android ค่ายอื่น ๆ ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ยกตัวอย่าง Samsung Galaxy S23 Ultra มีพอร์ต USB-C ที่เป็น USB 3.2 แต่สายที่แถมมาในกล่องก็เป็นสาย USB 2 เช่นเดียวกัน รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Xiaomi ด้วย
ที่มา TechCrunch
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส