อะโดบี ประกาศความพร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์ของฟีเจอร์ Generative AI ที่บูรณาการเข้ากับ Adobe Creative Cloud, Adobe Express และ Adobe Experience Cloud นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของงานสร้างสรรค์ที่มีการพัฒนาด้วย AI รองรับการใช้งานของลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลก
การประกาศในวันนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวเว็บแอปพลิเคชัน Firefly เพื่อการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์โดยใช้ AI และความสามารถที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ซึ่งพร้อมใช้งานในเวิร์กโฟลว์ใหม่ของ Photoshop, Illustrator และ Adobe Express รวมถึงโซลูชัน Adobe GenStudio ใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาความต้องการซัปพลายเชนของคอนเทนต์องค์กรในปัจจุบัน
Adobe Firefly
Firefly รองรับ text prompt กว่า 100 ภาษา รวมถึงภาษาไทย และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าทึ่งซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ปลอดภัยสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์
เดวิด วาดห์วานี ประธานฝ่ายธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “ตลอดช่วงเวลาที่เราเปิดให้ใช้งาน Adobe Firefly รุ่นเบต้า พบว่ามีรูปภาพมากกว่า 2,000 ล้านภาพที่สร้างขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า Adobe Firefly เปิดศักราชใหม่ของการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ความสามารถที่น่าทึ่งของ Firefly ผสมผสานกับเครื่องมือที่ครบครันของแอป Creative Cloud, Express, เว็บแอป Firefly และ Adobe Experience Cloud ช่วยสร้างโอกาสมากมายให้กับครีเอเตอร์ในการทำงานร่วมกับ Generative AI ในรูปแบบใหม่ที่ยอดเยี่ยม หลากหลาย ไม่เหมือนใคร และมีประสิทธิภาพ”
ด้วย Generative Credits ที่มาพร้อมกับการสมัครใช้บริการสมาชิก Creative Cloud, Express และ Firefly จะได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของความสามารถที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเวิร์กโฟลว์ Adobe Firefly for Enterprise พร้อมใช้งานโดยทั่วไปแล้วสำหรับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้สามารถปรับใช้คอนเทนต์ที่สร้างโดย AI ได้อย่างมั่นใจ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึง Firefly for Enterprise ผ่านทาง Creative Cloud, Express และ Adobe Experience Cloud ทั้งนี้ Firefly ได้รับการฝึกโดยใช้คอนเทนต์ที่ได้รับอนุญาต เช่น Adobe Stock และคอนเทนต์ที่เป็นสาธารณสมบัติ ซึ่งลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว นอกจากนี้ อะโดบีกำลังทำงานร่วมกับลูกค้า เพื่อให้สามารถปรับแต่งโมเดลโดยใช้แอสเซ็ตของลูกค้า รองรับการสร้างคอนเทนต์ตามที่ลูกค้าต้องการ
Creative Cloud
Creative Cloud เจเนอเรชันใหม่พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ รองรับทั้งบน Photoshop และ Illustrator รวมถึงนวัตกรรม AI ใน Premiere Pro และ After Effects เพื่อให้สามารถเข้าถึงเวิร์กโฟลว์ Generative AI ได้ในวงกว้าง ขณะนี้แผนสมาชิกของ Creative Cloud ได้รวมเว็บแอปพลิเคชัน Firefly ใหม่ เพื่อความคิดสร้างสรรค์ที่ได้ใช้ AI มากขึ้น และ Express Premium แอปสร้างงานครีเอทีฟแบบครบวงจรที่มี AI Text to Image เจนเนอเรชันใหม่ และฟีเจอร์ Text Effects ที่ทำให้การออกแบบและแชร์โพสต์บนโซเชียลมีเดีย วิดีโอ รูปภาพ PDF ใบปลิว โลโก้ และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และสนุกยิ่งขึ้น
Adobe Express
Express คือแอปสร้างงานครีเอทีฟครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วย AI เป็นหลัก ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถออกแบบและแชร์คอนเทนต์ที่โดดเด่นได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และสนุก ฟีเจอร์ Firefly ใน Express รวมถึง Text to Image and Text Effects เปิดให้บริการแล้วสำหรับครีเอเตอร์ทั่วโลก โดยช่วยพัฒนาไอเดียของผู้คนและแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกให้เป็นคอนเทนต์ที่โดดเด่น และสร้างแคมเปญโซเชียลมีเดียที่น่าทึ่ง
Adobe GenStudio
อะโดบีเปิดตัว Adobe GenStudio โซลูชันใหม่ที่ผสมผสานการสร้างสรรค์เนื้อหา การผลิต และการใช้งาน เพื่อพัฒนาซัปพลายเชนของคอนเทนต์องค์กรด้วยพลังของ Generative AI โดย Adobe GenStudio เป็นโซลูชันครบวงจรสำหรับองค์กรต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพลังและลดความซับซ้อนของกระบวนการสร้างจนถึงการใช้งานด้วยความสามารถด้าน AI และระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ
แนวทาง AI ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ในฐานะพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้และองค์กรธุรกิจทุกขนาด อะโดบีได้พัฒนาและปรับใช้ความสามารถด้าน AI ตามแนวทางที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเป็นไปตามหลักจริยธรรมด้าน AI เพื่อรับประกันความโปร่งใสของคอนเทนต์และข้อมูล อะโดบีได้ออกแบบเอาต์พุต Generative AI ของ Firefly เพื่อให้สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย Firefly for Enterprise ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับค่าชดเชยทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของอะโดบี สำหรับคอนเทนต์ที่สร้างโดยเวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย Firefly เป็นส่วนใหญ่ โดยตามค่าเริ่มต้นแล้ว Firefly จะรวม Content Credentials เอาไว้ด้วย ดังนั้นคอนเทนต์ทั้งหมดที่สร้างขึ้นโดยใช้ Firefly จะมีการระบุแหล่งที่มาของงานครีเอทีฟโดยอัตโนมัติ
Firefly จะรวมข้อมูล Content Credentials ที่สร้างขึ้นโดยใช้ Firefly เพื่อระบุว่ามีการใช้ Generative AI ซึ่งนำความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสมาสู่ดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น Content Credentials เป็นรายละเอียดที่ตรวจสอบได้ซึ่งทำหน้าที่เป็น “ฉลากโภชนาการ” แบบดิจิทัล โดยสามารถแสดงข้อมูลรวมถึงชื่อคอนเทนต์ วันที่สร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง และการแก้ไขใด ๆ ที่ทำขึ้น ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สฟรีจาก Content Authenticity Initiative (CAI) ข้อมูลนี้ยังคงเชื่อมโยงกับคอนเทนต์ไม่ว่าจะใช้ เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม โดยช่วยระบุแหล่งที่มาได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับดิจิทัลคอนเทนต์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส