Xiaomi ได้เปิดตัว Redmi Note 13 Pro+ ซึ่งเป็นรุ่นไฮเอนด์ที่สุดในซีรีส์ Redmi Note 13 นี้ ซึ่งมาพร้อมดีไซน์ที่มีความพรีเมียมมาก ๆ ทั้งขอบจอโค้ง ในขณะที่ฝาหลังผลิตด้วยวัสดุหนังเทียม (สำหรับรุ่นสีม่วง) และวัสดุกระจกสุดงาม (สำหรับรุ่นสีขาวและดำ) อีกทั้งยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ Redmi ซึ่งรองรับการแช่ในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานสุด 30 นาที
จอขอบโค้งดังกล่าวนั้น เป็นแผงหน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล ซึ่งมีรีเฟรชเรต 120 Hz, รองรับค่าสี 12 บิต และปรับคว่าความสว่างหน้าจออย่างรวดเร็ว (PWM Dimming) ด้วยความถี่สูง 1,920 Hz, มีความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,800 Nit, ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass Victus, ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
Redmi Note 13 Pro+ ยังได้รับการติดตั้งชิปเซต MediaTek Dimensity 7200-Ultra ระดับ 8 คอร์ ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร มีความเร็วสูงสุด 2.8 GHz ซึ่งประมวลผลร่วมกับแรม LDDR5 ขนาด 16 GB และสตอเรจ UFS 3.1 ขนาด 512 GB อีกทั้งยังติดตั้งแผ่นกราไฟต์และข่องระบายความร้อนขนาด 4,000 ตารางมิลลิเมตร เพื่อช่วยลดความร้อนในขณะประมวลผลด้วยศักยภาพสูงสุด
ในส่วนของกล้องหลังนั้น ใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ขนาด 1/1.4 นิ้ว สำหรับกล้องหลัก เสริมด้วยกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้านซอฟต์แวร์นั้นเป็นซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ MIUI 14 ที่อ้างอิงพื้นฐานการทำงานจาก Android 13 พร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่ชาร์จไฟไว 120 W, ลำโพงสเตอริโอ และพอร์ตอินฟราเรด
Redmi Note 13 Pro+ มีราคาเริ่มต้นที่ 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,800 บาท สำหรับความจุ 12/256 GB และ 2,299 หยวน หรือประมาณ 11,300 บาท สำหรับความจุ 16/512 GB โดยจะวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในวันที่ 26 กันยายน 2023 นี้
ที่มา : GSMArena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส