นอกจาก Xiaomi จะเปิดตัวไลน์อัป Redmi Note 13 series แล้ว ทางแบรนด์ก็ยังเปิดตัว Redmi Buds 5 ซึ่งเป็นหูฟัง TWS ควบคู่ไปด้วย ชูจุดเด่นเรื่องดีไซน์แบบ ergonomic, ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดของ Redmi Buds 5 คือระบบตัดเสียง (noise cancellation) ที่ตัดเสียงได้สูงสุด 46 dB สามารถปรับระดับโหมดตัดเสียงได้ 3 โหมด และปรับได้อีก 3 โหมดเพื่อฟังเสียงรอบข้าง

นอกจากนี้ระบบตัดเสียงรบกวนของ Redmi Buds 5 ยังสามารถใช้ได้กับการโทรอีกด้วย โดย Xiaomi โฆษณาอัลกอริทึมใหม่จากขุมพลัง AI ที่จะช่วยด้านระบบตัดเสียงจากไมโครโฟนทั้ง 2 ตัว
ในด้านคุณภาพเสียงก็มีการพัฒนาขึ้นมาเช่นกัน โดย Redmi Buds 5 มาพร้อมไดรเวอร์ 12.4 มม. และไดอะแฟรมเคลือบไทเทเนียม (titanium-coated diaphragm)

เมื่อนับรวมการชาร์จจากเคสแล้ว Buds 5 สามารถใช้งานได้นาน 40 ชั่วโมง ในขณะที่การชาร์จแบบ fast-charging จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้นาน 2 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ตัวเลือกสีของ Redmi Buds 5 นอกจากจะมีสีขาวและสีดำแล้วยังมีรุ่นพิเศษจากการร่วมมือกับ AAPE จนออกแบบมาเป็นดีไซน์ธีมลายพรางในที่สุด

แน่นอนว่านี่เป็นการเปิดตัวในประเทศจีน และเราคาดการณ์ว่า Redmi Buds 5 จะวางขายนอกประเทศจีนด้วย โดยราคาเปิดตัวมีดังนี้
- เวอร์ชันปกติ (สีขาว/ดำ) ราคา 199 หยวน (ราว 980 บาท)
- เวอร์ชัน AAPE Edition ราคา 299 หยวน (ราว 1,500 บาท)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส