สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า มูราตะ แมนูแฟ็คเจอริ่ง (Murata Manufacturing) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศญี่ปุ่น และซัพพลายเออร์ของแอปเปิ้ล (Apple) ได้สร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดลำพูนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มต้นการผลิตในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานธุรกิจเพื่อผลักดันการเติบโต แม้ว่าบริษัทมีกำไรลดน้อยลงก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า มูราตะตั้งเป้าหมายการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่นี้เป็นเงินกว่า 10,000 ล้านเยน หรือประมาณ 2,400 ล้านบาทภายในปี 2028 เพื่อตอบสนองความต้องการตัวเก็บประจุเซรามิกหลายชั้น หรือ MultiLayer Ceramic Capacitors (MLCC) ส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในสมาร์ตโฟนและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกในอนาคต
ปัจจุบัน มูราตะเป็นผู้นำของโลกในตลาด MLCC โดยครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40% และตัวเก็บประจุดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ให้กับมูราตะกว่า 40% จากยอดขายรวมทั้งหมด ซึ่งกระแสการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกที่มุ่งสู่ยานยนต์ไฟฟ้าถูกคาดการณ์ว่า จะทำให้มูราตะครองส่วนแบ่งในตลาดโลกมากขึ้นเป็น 50% เนื่องจากยานยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์อาจใช้ตัวเก็บประจุดังกล่าวมากถึง 10,000 ชิ้นต่อคัน ในขณะที่สมาร์ตโฟนแต่ละเครื่องจะใช้ MLCC จำนวน 1,000 ชิ้นเท่านั้น
สำหรับผลประกอบการของมูราตะ ซึ่งสิ้นสุดปีงบการเงิน ณ เดือนมีนาคม ปี 2021 บริษัททำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 314,100 ล้านเยน หรือประมาณ 76,800 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกที่แตะระดับ 1,400 ล้านเครื่อง ในขณะที่ปีงบการเงินล่าสุดที่ผ่านมา กำไรลดลงมาอยู่ที่ 253,600 ล้านเยน หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดสมาร์ตโฟนที่หดตัวลงเหลือ 1,100 ล้านเครื่อง
นอกจากประเทศไทยแล้ว มูราตะยังสร้างโรงงานในประเทศฟิลิปปินส์เพื่อผลิต MLCC เพิ่มเติม ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มบริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างฐานการผลิตที่มีเสถียรภาพ และหลีกเลี่ยงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ที่มา : Nikkei Asia
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส