นอกจากเปิดตัว Galaxy S23 FE แล้วนั้น Samsung ยังได้เปิดตัวอีกหนึ่งอุปกรณ์ในสาย FE (Fan Edition) ที่มาพร้อมดีไซน์พรีเมียมเช่นเดียวกับรุ่นเรือธงแต่ปรับลดสเปกลงมา นั่นคือแท็บเล็ต Galaxy Tab S9 FE ที่มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Tab S9 FE รุ่นมาตรฐาน และ Tab S9 FE+ พร้อมด้วยหูฟัง Galaxy Buds FE
Samsung Galaxy Tab S9 FE
Galaxy Tab S9 FE มาพร้อมหน้าจอ LCD แบบ IPS ขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และรีเฟรชเรต 90 Hz ในขณะที่ Galaxy Tab S9 FE+ มีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ Vision Booster ของ Samsung ที่ช่วยแสดงภาพในสภาพแวดล้อมนอกสถานที่ได้ชัดเจนมากขึ้น, ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos, มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 (กันน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที) และรองรับปากกา S Pen เสียบภายในตัวเครื่อง โดยป้องกันน้ำและฝุ่นด้วย


Galaxy Tab S9 FE ได้รับการติดตั้งชิปเซต Exynos 1380 ซึ่งประมวลผลร่วมกับแรม 6/8 GB (Tab S9 FE) และ 8/12 GB (Tab S9 FE+) บนสตอเรจ 128/256 GB
แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกล้องหน้าแบบ Ultrawide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล แต่รุ่น Tab S9 FE+ จะมาพร้อมกล้อง Ultrawide ด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลด้วย
ส่วนแบตเตอรี่นั้นมีความละเอียด 8,000 mAh (Tab S9 FE) และ 10,000 mAh (Tab S9 FE+) โดยรองรับการชาร์จไฟ 45 W


Galaxy Tab S9 FE มีราคาในไทยดังนี้
- Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi (6/128GB): 16,990 บาท
- Galaxy Tab S9 FE 5G (6/128GB): 19,990 บาท
- Galaxy Tab S9 FE+ Wi-Fi (8/128GB): 23,900 บาท
- Galaxy Tab S9 FE+ 5G (8/128GB): 27,900 บาท
Samsung Galaxy Buds FE
Galaxy Buds FE มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ANC (Active Noise Cancelation), รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 และใช้ได้นานต่อเนื่อง 21 ชั่วโมง (รวมการชาร์จกับเคสด้วย)
หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดนี้ยังรองรับการเข้ารหัสเสียง AAC และ SBC ติดตั้งไมโครโฟน 3 ตัว บนหูฟังแต่ละข้าง และซิลิโคนที่มีขนาดต่างกัน 3 แบบ เพื่อรองรับขนาดหูที่ต่างกัน


ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาด 479 mAh รองรับการใช้งานบนโหมด ANC ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง และเสริมด้วยเคสชาร์จซึ่งทำให้ใช้งานได้สูงสุดถึง 21 ชั่วโมง
Galaxy Buds FE เป็นหูฟังไร้สายรุ่นราคาประหยัดที่สุดของ Samsung (ในตอนนี้) โดยมีราคา 3,390 บาท และมีส่วนลด 30% เมื่อซื้อพร้อมมือถือซัมซุงที่ร่วมรายการ (S23 series/S23FE/Fold5/Flip5/S22 series/TAB S series/A54/A34) เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. – 5 พ.ย. 2566
ที่มา : GSMArena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส