Counterpoint Research เผยแพร่ข้อมูลต้นทุนการผลิตของ iPhone 15 Pro Max พบว่าต้นทุนการผลิตปีนี้เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Pro Max
ตามรายงานของ Counterpoint Research บอกว่า Apple มีต้นทุนการผลิต iPhone 15 Pro Max อยู่ที่ 502 เหรียญ หรือประมาณ 18,000 บาทต่อเครื่อง สำหรับ iPhone 15 Pro Max รุ่นความจุ 256GB (รุ่นเริ่มต้น) เพิ่มขึ้นประมาณ 37.7 เหรียญ หรือประมาณ 1,350 บาทเมื่อเทียบกับ iPhone 14 Pro Max รุ่นความจุ 256GB
สำหรับ iPhone 14 Pro Max รุ่น 256GB นั้นมีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจาก iPhone 13 Pro Max ประมาณ 3% นั่นหมายความว่า iPhone 15 Pro Max มีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากพอสมควร ต้นทุนที่แพงที่สุด (คิดเป็นเงินดอลลาร์ ไม่ใช่เปอร์เซ็นต์) คือชิป Apple A17 Pro และกล้องซูม 5X และขอบเครื่องที่ใช้วัสดุใหม่อย่างไทเทเนียม
Apple A17 Pro เป็นชิปรุ่นแรกที่ผลิตโดย TSMC ด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3nm มีประสิทธิภาพและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น แต่ด้วยความใหม่ของเทคโนโลยีนี้เองทำให้ต้นทุนของ Apple A17 Pro มากกว่า Apple A16 Bionic ประมาณ 30 เหรียญ, กล้องซูมก็มีต้นทุนมากขึ้นประมาณ 25 เหรียญ และขอบไทเทเนียมก็มีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากสแตนเลสอีก 7 เหรียญ
รวมกันแล้วเกิน 37.7 เหรียญนี่? จริง ๆ แล้ว Apple สามารถลดต้นทุนในชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ เช่น แรม หน้าจอ หรือชิป NAND เป็นต้น แต่ภาพรวมก็ยังมีต้นทุนที่สูงขึ้นกว่าเดิมอยู่ดี
แต่เป็น iPhone ที่กำไรมากที่สุด!
แม้ว่าต้นทุนการผลิตของ iPhone 15 Pro Max จะเพิ่มขึ้นจาก iPhone 14 Pro Max อย่างชัดเจน แต่ก็เป็น iPhone ที่สร้างกำไรให้ Apple ได้มากที่สุด ได้ยังไง?
iPhone 15 Pro Max เป็น iPhone ที่มีอัตราการกำไรต่อเครื่องมากที่สุดในปีนี้ ซึ่ง Apple ได้ยกเลิกรุ่น 128GB เริ่มต้นด้วย 256GB แทน ลดอัตรากำไรที่จะได้น้อยในรุ่นเริ่มต้นลง นอกจากนี้ Apple ยังมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนและผลกำไรอย่างเหมาะสม จะเห็นได้ว่า สื่อมีรายงานเฉพาะต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่ไม่มีรายงานต้นทุนเรื่องการวิจัยและพัฒนา (R&D) หรือค่าขนส่งเป็นต้น
ที่มา 9to5Mac
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส