วันอังคารที่ 26 ธันวาคม รัฐบาลอิสราเอลได้ตกลงมอบเงินสนับสนุนให้แก่อินเทล (Intel) จำนวน 3,200 ล้านเหรียญ (110,000 ล้านบาท) สำหรับสร้างโรงงานผลิตชิปใหม่มูลค่า 25,000 ล้านเหรียญ (865,000 ล้านบาท) ในเมืองคีร์ยาตกัต (Kiryat Gat) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล และความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสยังไม่สงบ หลังจากอิสราเอลถูกโจมตีจากกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
โรงงานใหม่จะสร้างอยู่ในเมืองคีร์ยาตกัต ห่างจากฉนวนกาซาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาสแค่ 42 กิโลเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินเทลมีความพยายามที่จะสร้างห่วงโซ่อุปทานไปทั่วโลก และรัฐบาลอิสราเอลมองว่าการลงทุนของอินเทลได้แสดงถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล (ขนาดมีสงครามก็ไม่หวั่น) และมีประโยชน์ทางด้านการเงินต่ออิสราเองโดยตรง เพราะเงินลงทุนมากกว่าเงินอุดทุนที่รัฐบาลอิสราเอลมอบให้เสียอีก
ทั้งนี้อินเทลตกลงว่าจะซื้อสินค้าและบริการจากซัปพลายเออร์ของอิสราเอลในช่วง 10 ปีข้างหน้า ด้วยมูลค่า 60,000 ล้านเชเขล (574,000 ล้านบาท) และโรงงานใหม่จะสร้างงานหลายพันตำแหน่ง ทั้งนี้โรงงานที่ 2 ได้เริ่มสร้างขึ้นแล้วโดยขยายจากโรงงาน Fab 28 ซึ่งมีกำหนดเปิดการผลิตในปี 2028 และดำเนินการผลิตไปจนถึงปี 2035
อินเทลได้ลงทุนด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อต้องการกลับคืนสู่การเป็นผู้นำในด้านการผลิตชิป ด้วยการแข่งขันกับ AMD, Nvidia และ Samsung อย่างเต็มที่แบบสู้ไม่ถอย
ปี 2022 อินเทลได้ประกาศว่าจะลงทุน 100,000 ล้านเหรียญ (3.45 ล้านล้านบาท) เพื่อสร้างศูนย์การผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่โอไฮโอ จนต่อมา Samsung และ TSMC ก็สู้อย่างเต็มที่ โดยได้ประกาศว่าจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อินเทลได้ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลเยอรมนีว่าจะลงทุนกว่า 30,000 ล้านยูโร (1,144,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิป 2 แห่งในเมืองมักเดบูร์ก และรัฐบาลเยอรมนีก็ได้แสดงเจตจำนงว่าพร้อมจะให้การสนับสนุนด้วยสิ่งจูงใจหรือเงินอุดหนุนจำนวนมาก
ที่มา : reuters.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส