ASUS ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเกมมิงรุ่นล่าสุดที่มีสเปกเหนือกว่าสมาร์ตโฟนระดับเรือธงในตลาดปัจจุบัน นั่นคือซีรีส์ ASUS ROG Phone 8 ที่ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่เพื่อให้กับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย

ROG Phone 8 มาพร้อมบอดีหนาเพียง 8.9 มม. และหนัก 225 กรัม ซึ่งบางเบากว่า ROG Phone 7 ที่มีความหนา 10.3 มม. และหนัก 239 กรัม โดยปรับลดความจุแบตเตอรี่ลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5,500 mAh (ลดลงไป 500 mAh) แต่ได้รับการปรับปรุงศักยภาพให้ใช้งานได้ยาวนานเท่ากับ ROG Phone 7 และยังรองรับเทคโนโลยี HyperCharge ระดับ 65 W ที่ช่วยให้ชาร์จจาก 0 – 100% ได้ใน 39 นาที

หน้าจอนั้นเลือกใช้แผงหน้าจอแบบ LTPO ขนาด 6.78 นิ้ว ที่สามารถปรับอัตรารีเฟรชเรตจาก 1 – 120 Hz ได้ โดยมีรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 165 Hz และมีความสว่างสูงสุด 2,500 Nit พร้อมขอบจอที่บางลง และขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 76.8 มม. ซึ่งเล็กลงกว่ารุ่นก่อนที่มีขนาด 173.0 x 77.0 มม.

ASUS ได้อ้างว่า ROG Phone 8 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 (รุ่นก่อนมีมาตรฐาน IP54) ที่ช่วยกันน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการระบายความร้อนด้วยการใช้อุปกรณ์ AeroActive Cooler X ใหม่ ติดด้านหลังตัวเครื่องเพื่อระบายความร้อน โดยอุปกรณ์ดังกล่าวมีขนาดเล็กลง 29% และเบาลง 10% แต่มีพัดลมเร็วขึ้น 1.1x และมีประสิทธิภาพจัดการคงวามร้อนได้ดีขึ้น 1.2x

ASUS ROG Phone 8

ในส่วนของการประมวลผลนั้นใช้ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ซึ่งทำงานร่วมกับแรม LPDDR5X สูงสุด 24 GB และสตอเรจ UFS 4.0 สูงสุด 1 TB

สำหรับการถ่ายภาาพนั้น ใช้เซนเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล สำหรับกล้องหลัก พร้อมฟีเจอร์แกน Hybrid Gimbal Stabilizer 3.0 Combined ช่วยให้การถ่ายภาพมีความเสถียร และซอฟต์แวร์ใหม่ที่มาพร้อโหมด Super HyperSteady Video ในขณะที่กล้อง Ultrawide มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมุมกว้าง 120 องศา

ASUS ROG Phone 8

ROG Phone 8 ยังใช้กล้อง Telephoto ซูม 3X ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ OIS และเทคโนโลยีรวม 4 เม็ดพิกเซล เป็น 1 เม็ดพิกเซลที่มีคุณภาพสูงสุด สามารถซูมไกลขึ้นถึง 10x ด้วยฟีเจอร์ AI ที่เรียกว่า Hyper Clarity, ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 30x และโหมด Super Night ที่ช่วยถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยม (ROG Phone 8 ที่จำหน่ายในบางประเทศอาจได้รับการติดตั้งกล้อง Macro แทน Telephoto แต่รุ่น ROG Phone 8 Pro และ 8 Pro Edition จะได้รับการติดตั้งกล้อง Telephoto ในทุกประเทศที่วางจำหน่าย)

ส่วนกล้องหน้านั้นใช้เซนเซอร์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล แต่ใช้การรวมเม็ดพิเซลเหลือ 8 ล้านพิกเซล พร้อมมุมกว้าง 90 องศา

ASUS ROG Phone 8

ASUS ยังได้นำ AI มาช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ‘Genshin Impact’ และ ‘Star Rail’ ที่ผู้เล่นสามารถเปิดใช้ Auto Pick Up, Fast Forward และ Running Lock ได้ รวมถึงใช้ AI ช่วยแก้ปริศนาภายในเกมได้อีกด้วย

นอกจากนี้จะรองรับ Microsoft Phone Link ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหรือปรับแต่งแอปและคัดลอกข้อมูลต่าง ๆ ผ่านเครื่องพีซีได้อย่างรวดเร็ว

ROG Phone 8 มีให้เลือก 2 สี คือ Phantom Black และ Rebel Grey ในขณะที่ ROG Phone 8 Pro และ 8 Pro Edition จะมีแค่สี Phantom Black เท่านั้น โดยทั้ง 3 รุ่น ยังคงมีจอแสดงผล OLED เล็ก ๆ ที่ด้านหลังตัวเครื่อง

ที่มา : GSMArena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส