คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักแบรนด์ Nokia ที่ถือว่าเป็นตำนานของวงการมือถือ ครองอุตสาหกรรมอย่างสมบูรณ์ รองรับทุกกลุ่มตลาดด้วยโทรศัพท์มือถือที่หลากหลาย มีให้เลือกตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับสูง ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าแบรนด์ Nokia กำลังจะหายไปจากตลาดมือถืออีกครั้ง
ปัจจุบันเราอาจจะเห็นแบรนด์หลัก ๆ อยู่ในตลาดอย่าง Samsung, Apple หรือ Xiaomi เป็นต้น แต่ในสมัยนั้น Nokia ถือว่าแตกต่างจากแบรนด์ปัจจุบัน เพราะสามารถครองตลาดแต่เพียงผู้เดียวในระยะเวลาหลายปี แล้ว Nokia หายไปจากตลาดได้อย่างไร?
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1865 เฟดริก ไอเดสแตม (Fredrick Idestam) ได้ก่อตั้งโรงงานกระดาษแห่งแรกในเมือง Tammerkoski ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟินแลนด์ ซึ่งโรงงานแรกที่ตั้งมานั้นยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ จนกระทั่งปี 1868 ไอเอสแตมได้ตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ใกล้เมือง Nokia ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อโรงงานเป็นชื่อ Nokia จากชื่อเมืองนั่นเอง
ในปี 1871 ไอเดสแตม และ ลีโอ เมชลิน (Leo Mechelin) นักการเมืองชาวฟินแลนด์ ได้ก่อตั้งธุรกิจร่วมกัน โดยเปลี่ยนโรงงานกระดาษของ Nokia เป็น Nokia Ab พร้อมกับขยายธุรกิจไปสู่การผลิตไฟฟ้าในปี 1902 แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Finnish Rubber Works ได้เข้าซื้อกิจการ Nokia Ab นอกจากนี้ยังซื้อบริษัท Kaapelitehdas ซึ่งเป็นบริษัทงานเคเบิลด้วย 35 ปีต่อมา ทั้ง 3 บริษัทได้ควบรวมและนำไปสู่การก่อตั้ง Nokia Corporation ขยายไปสู่ธุรกิจป่าไม้
จุดเริ่มต้นสู่วงการคมนาคม
Nokia เริ่มก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในปี 1979 โดยได้ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Salora ผู้ผลิตโทรทัศน์ ร่วมกันตั้งบริษัท Mobira Oy ในปี 1982, Mobira Oy ได้เปิดตัว Mobira Senator ซึ่งเป็นโทรศัพท์ติดรถยนต์เครื่องแรกที่มีน้ำหนักมากถึง 9.8 กก. จนกระทั่งในปี 1984 Nokia ได้ซื้อกิจการ Salora และเปลี่ยนชื่อแผนกโทรคมนาคมเป็น Nokia-Mobira Oy และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Nokia Mobile Phones ในปี 1989
หลังจากการเข้าซื้อกิจการ Salora ในปี 1984 นั้น Nokia Mobira ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือพกพาเครื่องแรกชื่อ Mobira Cityman มีน้ำหนัก 800 กรัม แม้ว่าจะมีสัญญาณที่ดีกว่าโทรศัพท์ Mobira Senator แต่ความครอบคลุมน้อยกว่า
จุดสูงสุดของ Nokia
Nokia เป็นบริษัทมือถือแห่งแรกที่แนะนำโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบ GSM นั่นคือ Nokia 1011 เปิดตัวในปี 1992 กลายเป็นอุปกรณ์ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยังทำให้ความต้องการของตลาดโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้นมากเลยด้วย
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90’s Nokia จำหน่ายโทรศัพท์มือถือระบบ GSM ทั่วโลกพร้อมเปิดตัว Nokia 2100 ซีรีส์ซึ่งเป็นมือถือที่มีเสียงเรียกเข้ารุ่นแรกในปี 1994 จากนั้นในปี 1996 บริษัทได้เปิดตัว Nokia 9000 ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่มีเว็บเบราว์เซอร์ โปรแกรมสำหรับการทำธุรกิจ คีย์บอร์ด QWERTY รวมถึงสามารถรับ/ส่งแฟกซ์และอีเมลได้
นอกจากเรื่องมือถือแล้ว Nokia ยังเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนาโครงข่าย 3G และ 4G LTE ในปี 2001 บริษัทได้เปิดตัว Nokia 7650 มือถือเครื่องแรกที่มีกล้องภายในตัว มือถือ Nokia เป็นที่ต้องการอย่างมากในเวลานั้น แต่ Nokia ไม่สามารถผลิตออกมาได้ทัน ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางตลาดสำหรับคู่แข่งอย่าง Samsung
ช่วงกลางทศวรรษ 90’s, Nokia ต้องปรับห่วงโซ่อุปทานใหม่เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาด รายรับของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 6,650 ล้านเหรียญ เป็น 31,720 ล้านเหรียญในช่วงปี 1996 ถึง 2001 ขณะนั้น Nokia มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดและได้รับเลือกให้เป็นผู้นำโทรศัพท์มือถือระดับโลกในปี 1998 และยังคงครองทั่วโลกจนถึงปี 2007 โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 50% เรียกว่าเป็นเบอร์ 1 อย่างแท้จริง
จากจุดสูงสุดสู่การล่มสลาย
แม้ว่าปี 2007 จะเป็นจุดสูงสุดของ Nokia แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายเช่นกัน เมื่อปี 2006 มีการแต่งตั้ง CEO คนใหม่ ออล เพกกา คาลัสวอร์ (Olli-Pekka Kallasvuo) ซึ่งแทนที่บริษัทจะเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แต่ทิศทางของ CEO คนนี้ เลือกที่จะทำแต่อะไรแบบเดิม ๆ
การที่ Nokia เลือกย่ำอยู่กับที่เป็นโอกาสของ Apple ที่เปิดตัว iPhone และ iPhone OS ออกมาในปี 2007 และ Google กับ Android OS ในปี 2008 ซึ่งเน้นการใช้งานในระบบสัมผัสเต็มตัว นักวิเคราะห์เชื่อว่า Nokia ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ พร้อมกับแนวคิดว่าผู้คนคงไม่ชอบสมาร์ตโฟนที่หน้าจอเป็นระบบสัมผัส และยังมุ่งหน้าทำมือถือรูปแบบเดิมออกมา
เมื่อ Nokia เริ่มตระหนักได้แล้วว่ายอดขายเริ่มไม่เป็นดังที่คิด ปี 2010 บริษัทได้ใช้ Symbian กับ Nokia N97 แต่ไม่ปัง จนปี 2011 มีการแต่งตั้ง CEO คนใหม่คือ สตีเวน อีลอป (Stephen Elop) และจับมือกับ Microsoft พัฒนา Windows Phone หวังกระตุ้นยอดขายอีกครั้ง แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนปี 2014 แผนกมือถือของ Nokia กำลังจะล้มละลาย Microsoft ได้เข้าซื้อในราคา 7,200 ล้านเหรียญ
Microsoft เองก็ไม่สามารถดันสมาร์ตโฟนได้ ทาง HMD จึงได้รับช่วงต่อ เซ็นสัญญากับ Nokia Technologies บริษัทลูกของ Nokia ในการใช้แบรนด์ Nokia สำหรับทำสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตเพียงผู้เดียว โดยในยุคของ HMD นั้นจะเป็นสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต Android เพียงอย่างเดียวแต่สถานการณ์ล่าสุดระหว่าง HMD และ Nokia เองก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก หลังมีข่าวว่า HMD อาจไม่ต่อสัญญาใช้แบรนด์ Nokia หลังจากปี 2025
สุดท้ายแล้ว Nokia จะเป็นอย่างไรต่อก็ต้องรอดูสัญญาระหว่าง HMD และ Nokia หลังปี 2025 แต่การส่งสัญญาณจาก HMD ว่าจะทำสมาร์ตโฟนเองนั้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่าอาจไม่มีการต่อสัญญาทำสมาร์ตโฟนภายใต้แบรนด์ Nokia ต่อ
เรียนรู้สาเหตุการล่มสลายของ Nokia
การล่มสลายของ Nokia นั้นไม่ได้มีเหตุผลเดียว แต่ประกอบด้วยหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องแนวโน้มของตลาดที่ Nokia ไม่สามารถมองได้ออก เช่น การเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรม การคุ้นเคยกับสิ่งแบบเดิม ไม่คิดว่าผู้บริโภคต้องการความเปลี่ยนแปลง รวมถึงล้มเหลวในการกระจายความเสี่ยง
Nokia ยังยึดติดใน Symbian ที่ไม่ค่อยมีแอปพลิเคชันที่หลากหลาย นวัตกรรมที่ไม่ใหม่ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Samsung และ Apple นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในสมาร์ตโฟน สุดท้ายสมาร์ตโฟนจาก Samsung และ Apple ก็เริ่มชิงส่วนแบ่งจาก Nokia มาได้เรื่อย ๆ
ที่มา History-Computer
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส