วันศุกร์ที่ 26 มกราคม นายโฮเซ เฟอร์นันเดซ (Jose Fernandez) ปลัดกระทรวงการเติบโตทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ กล่าวในงานแถลงข่าวที่ฮานอย ประเทศเวียดนามว่า 15 บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ มีความสนใจที่จะลงทุนมูลค่า 8,000 ล้านเหรียญ (284,860 ล้านบาท) ในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาดในเวียดนาม ซึ่งจะสำเร็จลุล่วงหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าในด้านกฎระเบียบของเวียดนาม
เวียดนามกำลังจูงใจการเข้ามาลงทุนของผู้ผลิตชิปและส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน แต่ถึงตอนนี้กฎระเบียบต่าง ๆ ยังไม่คืบหน้า จึงเป็นอุปสรรคต่อการขยายของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์และฟาร์มกังหันลมบนบกที่มีอยู่ รวมถึงการพัฒนาฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ปัจจุบันยังไม่มี
15 บริษัทชิปสหรัฐฯ ต้องการลงทุนที่มุ่งเน้นในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะต้องทำงานให้ถูกใจผู้ถือด้วย และผู้ถือหุ้นรวมถึงลูกค้าได้เน้นย้ำให้อุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุนต้องใช้พลังงานหมุนเวียนเท่านั้น แต่บริษัทเหล่านี้ยังเข้ามาลงทุนไม่ได้เพราะยังติดกับปัญหาที่ต้องรอใบอนุญาต ซึ่งกฎระเบียบยังไม่เรียบร้อย
เวียดนามกำลังจะใช้กฎระเบียบที่จะอนุญาตให้โรงงานต่าง ๆ ตกลงราคาไฟฟ้ากับผู้ผลิตพลังงานโดยตรง แทนที่จะซื้อกับคนกลางคือการไฟฟ้าของรัฐ นอกจากนี้ยังต้องรอการผ่านกฎระเบียบสำหรับฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง เช่น การกำหนดการใช้พื้นที่ทางทะเล ซึ่งความล่าช้าของกฎระเบียบจึงทำให้การลงทุนยังไม่คืบหน้า
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามมีความเติบโตในด้านพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเกิดจากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์และกังหันลมบนบกในวงกว้าง ที่สำคัญคือการผลิตพลังงานหมุนเวียนในบางส่วนได้มีการแก้ปัญหาในการเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐแล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสเดินทางไปเยือนเวียดนาม ก็เพราะต้องการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งการหารือส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการผลิตชิป แร่ธาตุสำคัญ และพลังงานสะอาด
ที่มา : reuters.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส