Windows 11 เปิดให้ใช้งานมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น อัตราการอัปเกรดมาใช้งานก็ถือว่าค่อนข้างช้าด้วยหลายปัจจัย รวมถึงระบบขั้นต่ำที่รองรับก็ถือว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างใหม่มาก
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ Windows 10 ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการของฝั่ง Windows ที่ยังครองส่วนแบ่ง Windows ที่มากที่สุด อยู่ที่ 66.45% ส่วน Windows 11 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 27.83% ซึ่ง Microsoft ก็ได้แนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเกรดไปใช้ Windows 11 เนื่องจากบริษัทจะยุติการอัปเดตซอฟต์แวร์รองรับ Windows 10 ในเดือนตุลาคมปี 2025
เนื่องจากความต้องการขั้นต่ำของ Windows 11 นั้น อาจทำให้อุปกรณ์ Windows หลายเครื่องที่ใช้ Windows 10 ไม่สามารถอัปเดตเป็น Windows 11 ได้ Google จึงชักชวนให้ผู้ใช้งานโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจหันมาใช้ ChromeOS Flex ซึ่ง Google รับประกันความปลอดภัยที่ยาวนานด้วย

สำหรับใครที่ไม่รู้จัก ChromeOS Flex จริง ๆ ก็คือเวอร์ชันหนึ่งของ ChromeOS ที่สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์ x86-64-bit ได้ ซึ่ง Google ก็ได้โน้มน้าวให้ผู้ใช้งาน Windows และ macOS เปลี่ยนมาใช้ ChromeOS Flex ด้วยหลายเหตุผล เช่น ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์, ป้องกันการเพิ่มขยะอิเล็กทรอนิกส์, มีประสิทธิภาพในการจัดการพลังงาน, มีความยืดหยุ่น และไม่ต้องปรับตัวเยอะ
ที่มา Windows Central
***