กลุ่มองค์กรพันธมิตรด้านสิ่งแวลดล้อม Climate Action against Disinformation ออกรายงานที่ชี้ว่า AI จะยิ่งเพิ่มการใช้พลังงาน และทำให้การปล่อยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสภาวะภูมิอากาศเลวร้ายลง
ไมเคล คู (Michael Khoo) ผู้อำนวยการโครงการการปล่อยข้อมูลเท็จด้านภูมิอากาศของ Friends of the Earth ระบุว่าไม่ควรไปเชื่อกระแสที่มีการบอกกันว่า AI จะช่วยกอบกู้โลก
รายงานให้รายละเอียดว่า อัตราการใช้พลังงานของ AI บังคับให้ต้องมีการสร้างศูนย์ข้อมูลมากขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นถึง 80% แม้ว่าศูนย์ข้อมูลเหล่านี้จะมีมาตรการอนุรักษ์พลังงานก็ตาม
เนื่องจาก AI ที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้การสร้างข้อมูลของ AI อาจใช้พลังงานถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการค้นหาออนไลน์ทั่ว ๆ ไป โดยในรายงานอ้างว่า การฝึก ChatGPT อาจใช้พลังงานเท่ากับที่ 120 ครัวเรือนสหรัฐฯ ใช้ใน 1 ปี
ขณะเดียวกัน ก็มีงานวิจัยที่ชี้ว่ามีหลักฐานในสหรัฐอเมริกาว่ามีการพยายามรักษาโรงงานไฟฟ้าพลังถ้านหินเพื่อให้รองรับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของ AI โดยเชื่อกันว่าใน 3 ปีถัดจากนี้ เซิร์ฟเวอร์ AI อาจใช้พลังงานเท่ากับประเทศสวีเดนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ Climate Action ยังเชื่อว่า AI จะขัดขวางความพยายามในการลดการใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการเป็นเครื่องมือในการปล่อยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับภูมิอากาศ โดยเฉพาะผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ทำให้โลกออนไลน์จะเต็มไปด้วยข้อมูลเท็จ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ที่มีคนเชื่อข้อมูลเท็จอยู่แล้ว เลวร้ายลงกว่าเดิม และขัดขวางความพยายามในการอนุรักษ์
รายงานเสนอว่าข้อมูลการใช้พลังงานของ AI ควรมีความโปร่งใส และมีมาตรการเฝ้าระวังการปล่อยข้อมูลเท็จที่เกี่ยวกับภูมิอากาศ