วินซ์ คห์ฮาเบรีย (Vince Chhabria) ตุลาการศาลชั้นต้นในนครซานฟรานซิสโกตัดสินว่าข้อกล่าวหาของโจทก์ 3 รายจากราว 36 รายที่ยื่นฟ้อง Apple ในคดีมีผู้ใช้ AirTag ในการสะกดรอยตามนั้นมีมูลเพียงพอ และไม่รับคำขอของ Apple ที่ต้องการให้ศาลยกคำร้องคดีนี้
โจทก์ทั้ง 3 รายยื่นฟ้อง Apple แบบกลุ่ม กล่าวหาว่า AirTag กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการสะกดรอยตามผู้อื่น โดยระบุว่าได้มีการเตือน Apple ถึงภัยความเสี่ยงในจุดนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว
การฟ้องแบบกลุ่มหรือ Class Action Lawsuit นั้นหมายความว่าหากโจทก์ชนะคดี ทางจำเลยจะต้องชดเชยให้กับทุกคนที่มีชื่อว่าเป็นผู้เสียหายตามคำฟ้องด้วย
โจทก์ยังบอกด้วยว่า Apple อาจมีความผิดภายใต้กฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ห้ามการนำอุปกรณ์ติดตามตัวไปใช้ในทางมิชอบ
ทั้ง 3 รายอ้างว่าความผิดพลาดของฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ AirTag ส่งผลโดยตรงต่ออาการบาดเจ็บของพวกเขา ในขณะที่มีผู้ใช้ AirTag สะกดรอยตามพวกเขา
ในคำฟ้องชี้ว่า Apple วางจำหน่าย AirTag ไปโดยแม้จะมีคำเตือนโดยกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ว่าอุปกรณ์ชนิดนี้อาจถูกนำไปดัดแปลงให้ใช้ในการสอดแนมได้ และสัญญาณเตือนเหยื่อให้ระวังการสอดแนมที่มีอยู่บนอุปกรณ์ อาจไม่เพียงพอ
ขณะที่ Apple แย้งว่าการออกแบบ AirTag เป็นไปโดยใช้มาตรการความปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน ทางบริษัทไม่ควรต้องรับผิดชอบกรณีมีการนำ AirTag ไปใช้ในทางที่ผิด