ดูเหมือนว่า Apple กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ แม้ว่า iPhone 15 จะยอมเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แล้ว แต่ยอดขายอาจจะไม่โดดเด่นขนาดนั้น สื่อต่างประเทศรายงานว่ายอดขาย iPhone ลดลงทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐอเมริกา บ้านเกิดของ Apple ด้วย
ต้องยอมรับว่านวัตกรรมในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนนั้นกำลังเกิดน้อยลงเรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้แต่ iPhone ที่ไม่ได้ดูมีอะไรใหม่หรือโดดเด่นมาสักระยะแล้ว อย่าง iPhone 15 เองก็ไม่ได้แตกต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญเท่าไหร่นัก จนกระทั่งมีการเปิดเผยตัวเลขยอดขาย iPhone ประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่ถือว่าไม่สู้ดีเอาเสียเลย
แม้ว่ายอดขายเพียง 1 เดือนอาจจะไม่ได้สะท้อนอะไรมากเท่าไหร่นัก แต่เดือนกุมภาพันธ์ก็ถือว่าเป็นเดือนที่มีความสำคัญสำหรับ Apple ด้วยเหมือนกัน UBS รายงานว่ายอดขาย iPhone ในสหรัฐอเมริกาลดลงไปถึง 9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว, ในจีนลดไป 16%, ในอินเดียลดไป 13% แม้ว่ายอดขายในยุโรปจะดีขึ้นถึง 24% แต่ภาพรวมก็ถือว่ายังน่ากังวล ยอดขายทั่วโลกลดลงไป 4% โดย UBS คาดว่า Apple จะสามารถจำหน่าย iPhone ได้ทั้งหมด 51 ล้านเครื่องในไตรมาสแรก น้อยลงจาก 56 ล้านเครื่องเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
UBS มองว่าสาเหตุที่ทำให้ยอดจาย iPhone ในจีนลดลงอย่างหนักเพราะผู้ใช้งานเลือกใช้แบรนด์ท้องถิ่นมากกว่า โดยเฉพาะ Huawei ที่กลับมาใช้ชิป Kirin ส่วนใหญ่สหรัฐฯ ผู้ใช้งานให้ความสนใจใน Galaxy S25 มากพอสมควร โดยเดือนกุมภาพันธ์ก็เป็นช่วงหลังเปิดตัวไม่นานด้วย
AI อาจเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ Apple เป็นบริษัทเดียวในบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้าน AI อย่างเป็นรูปธรรมออกมา แตกต่างจาก Microsoft ที่มี Copilot หรือ Google ที่มี Gemini จากรายงานระบุว่า Apple ยังคงอยู่ระหว่างการตกลงกับบริษัทต่าง ๆ อย่าง Google เพื่อนำโมเดล AI ของตัวเองมาใช้ร่วมกับ AI ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง แต่กว่าจะได้เห็นสิ่งที่เป็นรูปเป็นร่างก็อาจจะต้องรอยาวไปถึงงานเปิดตัวซอฟต์แวร์อย่างเร็วก็งาน WWDC 2024 ครับ